SET ดัชนียังคงซึมด้วยมูลค่าการซื้อขายบางเฉียบ มองช่วงบ่ายดัชนีน่าจะยังคงซึมออกข้างต่อ โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,500-1,520 จุด โดยในช่วงโค้งสุดท้ายของปียังคงยึดกลยุทธ์เลือก หุ้น High Dividend ที่มีโอกาสเกิด Window Dressing ADVANC, INTUCH, BBL, AIT
มุมมองและการวิเคราะห์ :
- SET Index ดัชนีน่าจะยังคงซึมออกข้างต่อโดยมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,500-1,520 จุด
- ในปีผ่านมาได้เกิดเหตุกาณ์สำคัญมากมายทั้งจากปัจจัยที่เกิดจากทั้งภายในประเทศ และภายนอกประเทศ ซึ่งมีผลทำให้ SET Index ต้องเผชิญต่อความผันผวนหลายต่อหลายครั้ง หากลองมานั่งทบทวนดูสามารถสรุปเหตุการณ์ได้ดังต่อนี้
1. Bangkok Shutdown เกิดขึ้นเมื่อ 13 ม.ค. จากแกนนำ และกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ปิดหน่วยงานราชการ และจุดสำคัญ 7 แห่งในกรุงเทพฯ นำไปสู่การยกระดับการชุมนุมที่ร้อนแรงในเวลาต่อมา SET Index ช่วงมกราคม ติดลบเท่ากับ 17.44 จุด
2. ศรส.ขอคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุม 5 จุดในกรุงเทพฯ ในวันที่ 18 ก.พ. ทำให้มีกลุ่มผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ทำให้ดัชนี SET Index วันนั้นปรับตัวลดลงมากสุดถึง 17.15 จุด ก่อนที่จะปรับตัวช่วงขึ้นในช่วงท้ายจนมาปิด 1,326.21 จุด ปิดลบไป 6.16 จุด
3. ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเลือกตั้ง 2 ก.พ.โมฆะ เมื่อวันที่ 21 มี.ค. สืบเนื่องมาจากการขัดรัฐธรรมนูญ โดยมีสาเหตุมาจากไม่สามารถดำเนินการจัดการเลือกตั้งภายในวันเดียว ผลดังกล่าวทำให้ Set Index ปิดปรับตัวลดลงจากวันก่อนหน้า 0.97 จุด
4. ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ พ้นตำแหน่ง เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2557 จากกรณีโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำให้ SET Index ปรับตัวลดลง 1.4 จุด จนมาปิดที่ 1,402.61 จุด
5. กองทัพประกาศใช้กฎอัยการศึก ในวันที่ 20 พ.ค. เพื่อต้องการลดความร้อนของการชุมนุมของทั้ง กปปส และ นปช. และทำให้วันถัดมา ตลาดหุ้นไทยกลับมาบวกได้จากเดิม 8.23 จุด
6. รัฐประหาร ครั้งที่ 13 ในวันที่ 22 พ.ค. เพื่อยุติการชุมนุม และคืนความสุขให้แก่ประเทศ ซึ่งส่งผลให้วันถัดมา แม้ดัชนีเปิดตัวต่ำแต่ก็มีแรงซื้อไล่กลับจนทำให้ดัชนีปิดด้วยแท่งเทียนเขียวใส บวกขึ้นมาได้จากระดับเปิด 19.66 จุด จนมาปิดที่ 1,396.84 จุด
7. FED ประกาศยุติการใช้ QE หลังจากประชุม FOMC ในวันที่ 29-30 ต.ค. ซึ่งดูเหมือน SET Index จะตอบสนองไปแล้วล่วงหน้าจากที่ดัชนีปรับลดลง จากวันที่ 29 ก.ย.-21 ต.ค. ไปราว 4.68% แต่หลังจากวันที่ประกาศยุติ QE (31 ต.ค.) ดัชนีปรับตัวขึ้นได้เท่ากับ 1.2%
8. ECB ประกาศซื้อ ABS และ Covered Bond เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ซึ่งดูเหมือนตลาดจะค่อนข้างผิดหวังจากที่ไม่ได้แจ้งขนาดของโครงการว่าจะซื้อเท่าใด จึงทำให้วันถัดมา SET Index ลดลงไปต่ำสุดถึงติดลบไป 16.4 จุด ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับคืนให้กลับมาบวกได้ที่ 0.55 จุด
9. BOJ เพิ่มวงเงินอัดฉีด QE เมื่อวันที่ 31 ต.ค. จากเศรษฐกิจญี่ปุ่นชะลอตัวอย่างรุนแรงจากผลของการขึ้นภาษีขายจาก 5% เป็น 8% ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาได้สร้าง Sentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวบวกขึ้นมาทันที 13.93 จุด
10. ราคาน้ำมันดิบโลกดำดิ่ง ปรับตัวลดลงกว่า 50% จากต้นปี ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยฯ มีการปรับลดประมาณการกำไรสุทธิของตลาดในปี 2557 และ 2558 ลง และนำไปสู่การปรับฐานของ SET Index ในเวลาต่อมาถึง 7.6% (ช่วง 1-15 ธ.ค. ที่ผ่านมา)
11. Panic Sell เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ส่งผลให้ SET Index รูดลงกว่า 100 จุดในวันเดียว จากกระแสข่าวลือ ตามด้วยกลไก Force Sell และ Short Sell แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากกระแสข่าวลือที่เริ่มซาลงทำให้เกิดแรงซื้อกลับคืนมา และทำให้ดัชนีปิดท้ายวันติดเหลือ 36.46 จุด
กลยุทธ์การลงทุน Investment Tactic :
- ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง : AAV (FV@B 6) RCL (FV@B11.8) และ TASCO (FV@B80)
- หุ้นให้ผลตอบแทนชนะตลาดในเดือนมกราคม : STPI (FV@B 30.30), KTB (FV@B 29.16)
- หุ้นปันผลเด่น : INTUCH (FV@B 113) STPI (FV@B 30.30) SPALI (FV@B 31.96) AIT (FV@B 53) ADVANC (FV@B 285) BEC (FV@B 57) HANA (FV@B48) KCE (FV@B 46.5)
- Portfolio Update : ADVANC, AIT, BA, ERW, STPI, INTUCH
ประกิต สิริวัฒนเกตุ
prakit.re@asiaplus.co.th
บล.เอเซีย พลัส