ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 26 พฤษจิกายน 2557 ปิดไปที่ 1,599.82 จุด เพิ่มขึ้น 8.82 จุด เปลี่ยนแปลง +0.55% มูลค่าการซื้อขาย 50,056.37 ล้านบาท ระหว่างเทรดแตะจุดสูงสุดที่ 1,602.28 จุด และต่ำสุดที่ 1,593.00 จุด
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเซีย พลัส สรุปความเคลื่อนไหวดัชนีวันนี้ แม้จะสามารถปรับตัวขึ้นถึง 1,602 จุด แค่ถึงแต่ยังไม่สามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่ง โดยยังคงมีหุ้นเก็งกำไรขนาดเล็ก Technical Rebound ชั่วคราวก่อนลงต่อ โดย MAI Index ปรับเพิ่มขึ้น 0.9% สวนกลับที่ปรับลงวานนี้กว่า 1.2% เช่นเดียวกับหุ้น Non-SET100 วันนี้ก็เด้งขึ้นมา 0.8% ฟื้นสภาพจากวานนี้ที่ลงไปถึง 1% ส่วนกลุ่ม Hot Hit อย่างพลังงานทดแทนวันนี้ฟื้นตัวขึ้นมาเพียง 0.87% ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับที่ปรับลงไปวันก่อนหน้า 1.4%
“Technical Rebound ของหุ้นเก็งกำไรขนาดเล็กไม่น่าจะกินระยะได้ยาวมากนัก และยังมีความเสี่ยงที่จะต้องกลับมาปรับลงอีกครั้ง เนื่องจากเห็นกระแสสลับกลุ่มลงทุนคาดว่าจะเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ กลุ่ม Big & Mid cap อย่าง พลังงาน สื่อสาร ธนาคารฯ อสังหาฯ ขนส่ง บันเทิง ที่อยู่ใน SET50 Index จะได้รับความสนใจมากขึ้น โดยได้แรงหนุนจาก LTF ปลายปี ซึ่งหุ้นพื้นฐานทั้งหลายในกลุ่ม SET50 Index จะเป็นเป้าหมายในการเข้าซื้อของสถาบันในประเทศ ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศที่เริ่มมีการเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง ทั้งในตลาดอนุพันธ์ และตลาดทุนมาหลายวันติดต่อกันก็น่าจะพุ่งเป้าหมายไปยังหุ้นในกลุ่ม SET50 เช่นกัน”
พร้อมคาดการณ์พรุ่งนี้ดัชนีน่าจะเคลื่นอไหวในกรอบ 1,587-1,600 จุด เพื่อตั้งหลักไปทดสอบ 1,602 จุดอีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า ดังนั้น คงคำแนะนำเลือก SAMTEL ได้ประโยชน์จากการลงทุนด้านโทรคมนาคมของภาครัฐ หนุน EPS growth ปี 2558 โต 22% ในขณะที่ราคายังถูก Expected P/E เพียง 13.7 เท่า และยังมี dividend yield สูงถึง 3.8%
- หุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัวในงวด 4Q57 และดีต่อเนื่องถึงปีหน้า AP, STPI, PTTGC, ADVANC, ERW
- หุ้นที่มีโอกาสถูกเข้าคำนวณใน SET50 Index เลือก SPALI และ SET100 Index เลือก DEMCO
- Portfolio Update : ADVANC, AP, DEMCO, ERW, PTT, RS, SCB, STPI, INTUCH
