“แอล.พี.เอ็นฯ” ชี้อสังหาฯ ปี 58 ยังสดใส พร้อมประกาศผุดเพิ่มอีก 12 โครงการ มูลค่าเกือบ 20,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 16,000 ล้านบาท เติบโต 36% ลั่นอีก 5 ปี คอนโดฯ ยังเป็นที่ต้องการต่อเนื่อง ฟันธงเป็นสินค้าหลักในธุรกิจอสังหาฯ
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN กล่าวถึงทิศทางธุรกิจของบริษัทในปี 2558 ว่า ได้กำหนดเป้าหมายยอดขายไว้ 20,000 ล้านบาท เติบโต 18% และตั้งเป้าหมายรายได้ 16,000 ล้านบาท เติบโต 36% จากปัจจุบันที่มียอดขายรอรับรู้รายได้ 18,600 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ปีนี้ 16,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 10-12 โครงการ มูลค่ารวม 19,340 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทสินค้าในมือรวม 35,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 16,000 ล้านบาท และ ปี 2559 จำนวน 19,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการที่แล้วเสร็จในปีนี้จะมีประมาณ 7 โครงการ มูลค่ารวม 17,962 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2557 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขาย 17,000 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 24,000 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 11,700 ล้านบาท และมียอดขายรอรับรู้รายได้ 18,600 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ในปี 2558 จำนวน 14,000 ล้านบาท และปี 2559 จำนวน 4,600 ล้านบาท
นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ได้มีการกระจายความเสี่ยง และขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มโครงการแนวราบ ภายใต้บริษัท พรสันติ จำกัด ซึ่งจะพัฒนาโครงการทาวน์เฮาส์ “บ้านลุมพินี” ระดับราคา 3-5 ล้านบาท โดยในปี 58 จะเปิดอีก 5 โครงการใหม่ในปีนี้ มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท หลังจากตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทำทาวน์เฮ้าส์ไปแล้ว 6 โครงการ มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท ซึ่งในปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ให้ แอล.พี.เอ็น. 600 ล้านบาท และปี 58 ตั้งเป้ารายได้เพิ่มเป็น 1,200 ล้านบาท โดยเบื้องต้น โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้ ประกอบด้วย ทำเลถนนสุขสวัสดิ์ 26, วัดกู้ ปากเกร็ด ส่วนอีก 3 ทำเลอยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดิน เช่น ถนนรามอินทรา,บางกรวย-ไทรม้า และเทพารักษ์ เป็นต้น
สำหรับทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2558 นั้น มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยจากภาครัฐในการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในการอนุมัติโครงการเมกะโปรเจกต์ ซึ่งทำให้ภาคเอกชนมีความมั่นใจในการลงทุนมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปีนี้แม้จะคาดการณ์ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ได้ไม่แน่ชัดมากนัก แต่บริษัทเชื่อมั่นว่าจะจะสามารถเติบโตในทิศทางที่ดีได้
“ถึงแม้ว่าในปีที่ผ่านมา ตลาดที่อยู่อาศัยจะมีการเติบโตที่ไม่ดีมากนัก แต่ด้วยปัจจัยในหลายๆ ด้านในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ช่วงต้นปีนี้ผู้ประกอบการเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะคอนโดมเนียม ภายใน 5 ปีข้างหน้าความต้องการหรือดีมานด์ของผู้บริโภคยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นสินค้าหลักในธุรกิจอสังหาฯ ต่อไป”นายโอภาส กล่าว