“เสนาฯ” ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจ ยังฟื้นไม่ชัดเจน ภาคหนี้ครัวเรือนยังเพิ่มสูงขึ้น กระทบความเชื่อมั่นของผู้บริโภค อาจชะลอการตัดสินใจซื้อ จับตาผู้ประกอบการงัดกลยุทธ์สงครามราคาแย่งลูกค้า ด้านธุรกิจเสนาฯ วางเป้าปี 57 มีรายได้รวม 2,500 ล้านบาท ขณะนี้สามารถทำได้แล้ว 70% ของเป้า ซื้อที่ดินแปลงใหม่พัฒนาโครงการคอนโดฯ สูง-บ้านแนวราบปี 58 ปลื้มโครงการ “บ้านร่วมทางฝัน” ประสบความสำเร็จ พร้อมเดินหน้าต่อ
ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่ชัดเจน ปัญหาหนี้ครัวเรือน ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภคในปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายหรือควบคุมการใช้จ่ายมาขึ้น โดยเฉพาะการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งจะมีความระมัดระวังอย่างมากทำให้การตัดสินใจซื้อของลูกค้าช้าลง ขณะที่ผู้ประกอบการเองต้องเผชิญกับปัญหาต้นทุนที่ดิน ค่าก่อสร้าง แรงงาน ที่ปรับตัวสูงสวนทางกับกำลังซื้อของผู้บริโภค บีบให้ต้องพัฒนาที่อยู่อาศัยออกมา ให้มีราคาที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในพื้นที่ได้ ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาระดับอัตรากำไรให้อยู่ในระดับที่ดีด้วย
จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้การแข่งขันในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน ไม่ได้ให้น้ำหนักกับทำเลในการพัฒนาโครงการเพียงด้านเดียวอย่างเช่นอดีตที่ผ่านมา แต่จะเน้นเรื่องการทำราคาที่ดึงดูใจลูกค้า ทำให้การแข่งขันด้านราคากลับเข้ามาเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวลดต้นทุนเพื่อทำราคาสินค้าให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในพื้นที่ได้ โดยแนวทางหนึ่งของการลดต้นทุนเพื่อทำราคาให้แข่งขันได้คือ การลดขนาดยูนิตให้เล็กลง เพื่อให้สามารถทำราคาแข่งขันได้
“ปัญหาคือ กำลังซื้อที่ได้รับผลกระทบจากหนี้ครัวเรือน ผลกระทบด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และการระมัดระวังการใช้จ่าย ขณะที่ผู้ประกอบการต้องแข่งขันทำราคาที่สอดรับกับกำลังซื้อของผู้บริโภคในภาวะที่ต้นทุนต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้น”
ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในทำเลเดียวกันได้ เสนาฯ จึงเน้นเรื่องการบริหารจัดการต้นทุนที่เข้มงวดมากขึ้น เพื่อไม่ให้กระทบกับคุณภาพของโปรดักส์ โดยแนวทางของเสนาในการแก้ปัญหาในทำเลที่มีการแข่งขันด้วยราคาสูงนั้น จะเน้นการพัฒนาโครงการด้วยทีมงานของบริษัทเอง ไม่ใช้ผู้รับเหมา นอกจากนี้เพื่อให้สามารถลดต้นทุนการก่อสร้างลง ยังต้องนำเทคนิคการออกแบบเข้ามาช่วย ทั้งในส่วนของสถาปนิก และวิศวกรรมการออกแบบเพื่อช่วยลดต่นทุนให้ได้มากที่สุด
เสนาฯ ตั้งเป้ารายได้รวม 2,500 ล้านบาท
ดร.เกษรา กล่าวถึงภาพรวมของบริษัทฯ ว่า ตั้งเป้าจะมีรายได้รวม 2,500 ล้านบาท ขณะนี้สามารถทำได้แล้ว 70% ของเป้า ส่วนยอดขายปีนี้ตั้งเป้าที่ 3,000 ล้านบาท โดย ณ 9 เดือน มียอดขายแล้ว 2,100 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีจะสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทยังคงเดินหน้าซื้อที่ดินสะสมรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในปี 2558 ล่าสุด ได้ซื้อที่ดินเข้ามาเพิ่ม 2 แปลง คือ ที่ดินในย่านพระราม 2 จำนวน 7 ไร่ ซึ่งจะใช้พัฒนาโครงการแนวสูง และที่ดินในย่านเลียบถนนรามอินทรา 100 ไร่ จะใช้พัฒนาโครงการแนวราบ ทำให้จนถึงขณะนี้บริษัทใช้เงินในการซื้อที่ดินไปแล้ว 700 ล้านบาท เมื่อนับรวมกับการซื้อที่ดินสะสมเข้ามาในช่วงก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ในปี 2558 บริษัทคาดว่า จะเปิดตัวโครงการแนวราบรวม 6-7 โครงการ โดยในจำนวนนี้จะมี 3 โครงการที่ใช้ระบบการก่อสร้างสำเร็จรูป (พรีแฟป) ในการก่อสร้าง 100% โดยโครงการที่จะใช้ระบบก่อสร้างพรีแฟปทั้ง 100% จะเป็นกลุ่มบ้านระดับราคา 2-4 ล้านบาท ส่วนบ้านที่มีราคา 4 ล้านบาทขึ้นไป จะยังคงใช้ระบบก่ออิฐฉาบปูน เช่นเดิม
ดร.เกษรา กล่าวถึงโครงการ “บ้านร่วมทางฝัน” ว่า ในช่วงที่ผ่านมาได้นำโครงการที่อยู่อาศัยเข้าร่วมโครงการบ้านร่วมทางฝันมาแล้ว 3 โครงการ สามารถนำกำไรจากการขายทั้ง 3 โครงการ บริจาคแก่โรงพยาบาลรัฐบาลได้แล้ว 120 ล้านบาท
สำหรับโครงการบ้านร่วมทางฝัน เป็นโครงการที่พัฒนาเพื่อขายให้ผู้บริโภคทั่วไปแต่จะนำกำไรจากการขายทั้งหมดมอบให้โรงพยาบาลรัฐบาลนำไปใช้ในโครงการต่างๆ เพื่อช่วยในการรักษาผู้ป่วย โดยโครงการล่าสุดที่นำเข้าโครงการบ้านร่วมทางฝัน 4 คือ โครงการ คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 196 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 1.6 ล้านบาท มูลค่ารวม 315 ล้านบาท ตั้งอยู่ในย่านถนนเทอดไท เขตบางแค