“ศุภาลัย” ปรับแผนลงทุนตุนแลนด์แบงก์ หลังราคาที่ดินขึ้นต่อเนื่องปีละกว่า 9% สวนทางดอกเบี้ยในตลาดแค่ 4% ขณะที่ GEARING RATIO อยู่ในระดับแค่ 0.5% เล็งเพิ่มงบซื้อที่ดินปี 2558 เป็น 6,000 ล้านบาท ระบุ เป็นนโยบายระยะสั้น 2-3 ปี คาดยอดขาย 7 เดือนทะลุหมื่นล้าน ครึ่งปีหลังลุยเปิด 16 โครงการใหม่ มูลค่า 2.1 หมื่นล้านบาท
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมปรับแผนการลงทุนซื้อที่ดินใหม่ จากเดิมที่ไม่ซื้อที่ดินสะสม (แลนด์แบงก์) เพื่อลงทุนในอนาคต แต่หลังจากที่ราคาที่ดินในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมาปรับขึ้นปีละกว่า 9% ถือว่าสูงที่สุดนับจากวิกฤตปี 2540 ส่วนหนึ่งมาจากการขยายเส้นทางใหม่ๆ ของรถไฟฟ้า ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำเพียง 4% ซึ่งมีช่องว่างมากทำให้คุ้มค่าที่จะซื้อที่ดินสะสม ซึ่งหากเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับ 6% ขณะที่ราคาที่ดินปรับขึ้นไม่ถึง 9% ทำให้ช่องว่างของอัตราดอกเบี้ย และราคาที่ดินแคบจึงไม่คุ้มที่จะลงทุนซื้อที่ดินสะสม ประกอบกับบริษัท GEARING RATIO อยู่ในระดับต่ำเพียง 0.5% เท่านั้น จึงสามารถลงทุนซื้อที่ดินสะสมได้
ทั้งนี้ นโยบายซื้อที่ดินสะสมจะเป็นนโยบายระยะสั้นในช่วง 2-3 ปีนี้เท่านั้น ตามแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินที่คาดว่าจะเพิ่มในระดับดังกล่าวไปอีก 2-3 ปี โดยปี 2558 บริษัทเตรียมเพิ่มงบลงทุนซื้อที่ดินไว้ที่ 6,000 ล้านบาท จากที่ปีนี้ตั้งไว้ที่ 5,000 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2557 ติดลบประมาณ 10% เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่สงบในช่วงครึ่งปีแรก สร้างผลกระทบอย่างมากต่อภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัย และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ก็ชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ สำหรับโครงการแนวราบแนวโน้มผู้ประกอบการรายเล็กจะไม่หันมาลงทุน เนื่องจากการลงทุนในปัจจุบันจะต้องใช้เงินลงทุนสูงขึ้น โดยจะต้องลงทุนระบบสาธารณูปโภค บ้านตัวอย่าง รวมไปถึงการสร้างบ้านก่อนขายบางส่วนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายหลังจากที่การเมืองนิ่ง ส่งผลให้ยอดลูกค้าเยี่ยมชมโครงการของบริษัทเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายน ทำให้สร้างยอดขายได้มากสุดถึง 1,400 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 15-20% ทำให้เชื่อว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับสู่ภาวะปกติ ขณะที่ผู้ประกอบการก็สามารถวางแผนการพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง
โดยในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทสร้างยอดขายได้ราว 8,000 ล้านบาท โดยประมาณการว่าถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม จะมียอดขายกว่า 10,500 ล้านบาทอย่างแน่นอน ซึ่งบริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายทั้งปีไว้ที่ 22,000 ล้านบาท เติบโต 40% จากปี 2556 ที่มียอดขาย 12,000 ล้านบาท
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 16 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 21,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 7 โครงการ มูลค่า 13,000 ล้านบาท และแนวราบ 9 โครงการ มูลค่า 8,000 ล้านบาท ตามเป้าทั้งปีที่วางไว้ คือ 27 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 9 โครงการ และแนวราบ 18 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 34,000 ล้านบาท ถือว่าเป็นการพัฒนาโครงการมากที่สุดนับตั้งแต่เปิดบริษัทมา แม้ว่าสถานการณ์ทางด้านการเมืองจะไม่เอื้อก็ตาม
ล่าสุด เปิดตัวคอนโดฯ ใหม่ 2 โครงการ ได้แก่ “โครงการศุภาลัย ซิตี้ รีสอร์ท สถานีแบริ่ง” บนทำเลติดถนนสุขุวิท 105 (ลาซาล) มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท เป็นอาคารชุดพักอาศัยสูง 8 ชั้น จำนวน 334 ยูนิต ราคาพิเศษเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท โดยเปิดจองไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดจองประมาณ 60%
ส่วนอีกโครงการคือ “ศุภาลัย วิสต้า ห้าแยกปากเกร็ด” เป็นอาคารสูง 30 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 410 ยูนิต เป็นห้องชุดพักอาศัย 404 ยูนิต ร้านค้า 6 ยูนิต ห้องชุดพักอาศัยมีให้เลือกตั้งแต่แบบ Studio 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 31-79 ตารางเมตร ราคาพิเศษเริ่มเพียง 1.47 ล้านบาท มูลค่าโครงการประมาณ 1,100 ล้านบาท โดยจะเปิดจองในวันที่ 23-24 สิงหาคม 2557 นี้ คาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ 60-70% ภายในเดือนเดียว