“บางจาก” แจงการเสนอซื้อหุ้นคืนจาก “ปตท.” จำนวน 27.22% โดยวิธี Management Buy-out เป็นเรื่องปกติ

“ชัยวัฒน์” ยันการเสนอซื้อหุ้น “บางจาก” จำนวน 27.22% จาก “ปตท.” ในนามกลุ่มผู้บริหาร-พนักงาน โดยวิธี Management Buy-out เป็นเรื่องปกติ และจะไม่มีนักการเมืองเข้ามาถือหุ้น “ไพรินทร์” แนะอย่าวิตกเกินไป ย้ำการขายหุ้น เพราะอยากลดข้อครหาการผูกขาด “อนุสรณ์” เตือนรัฐบาลทบทวน

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการบริษัท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกรณีกลุ่มผู้บริหารบางจาก และพนักงานรวมตัวกันเสนอประมูลซื้อหุ้นจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่ประกาศขายร้อยละ 27.22 โดยใช้วิธีการที่เรียกว่า Management Buy-out เป็นวิธีการปกติที่ต่างประเทศดำเนินการ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าใช้รูปแบบอย่างไร

ทั้งนี้ ยืนยันว่า การดำเนินการเพื่อให้ผู้บริหาร พนักงานมีโอกาสที่จะเป็นเจ้าของบริษัทร่วมกัน ซึ่งการที่มีการจดทะเบียนในนามบริษัท บีซีพี คอร์ปอเรชัน จำกัด นั้น ก็เป็นหนึ่งในแนวทางจัดการ ซึ่งจะต้องมีการกู้เงินร่วมอย่างแน่นอน โดยขอยืนยันว่า หากได้เข้าซื้อหุ้นแล้วบริษัทนี้ในอนาคตก็จะไม่มีการนักการเมืองเข้ามาร่วมถือหุ้นอย่างที่พนักงานวิตกกังวล

“เมื่อช่วงบางกจากวิกฤตในปี 2547 ช่วงนั้นผมเป็นที่ปรึกษา และใช้กลไกออกหุ้นดีอาร์ ทำให้บางจากมีเงินปรับปรุงกิจการ มาครั้งนี้เสนอรูปแบบ Management Buy-out”

นายชัยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า หลังเข้ามาทำงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 ตนเองได้เข้าพบทั้งปลัดกระทรวงพลังงาน และปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อแนะนำตัว และได้มีโอกาสแจ้งถึงความห่วงใยของพนักงาน ซึ่งทราบว่า มีอดีตข้าราชการบางท่านห่วงใยบางอย่าง และเห็นว่ากระทรวงการคลัง น่าจะใช้กองทุนวายุภักษ์เข้ามาร่วมซื้อหุ้นด้วย

ส่วนการทำงานของบางจาก ยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากการขาดทุนสต๊อกน้ำมัน เพราะราคาน้ำมันลดลงอย่างรวดเร็ว แต่จะบริหารให้ดีที่สุด โดยนอกจากจะเดินหน้าตลาดในประเทศแล้ว ยังเดินหน้าตลาดอาเซียนรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) และยังเป็นไปตามเป้าหมายเพิ่มอีบิทด้า 1.5 เท่า ในปี 2563 เป็นวงเงิน 25,000 ล้านบาท จากปัจจุบัน 10,000 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน พนักงานบางจากจับตาการขายหุ้นของ ปตท.ครั้งนี้ บางส่วนเสนอให้รัฐบาลทบทวน และบางส่วนไม่เข้าใจกลไกของรูปแบบ Management Buy-out และตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีนักการเมืองเข้ามาฮุบกิจการบางจากผ่านรูปแบบนี้หรือไม่ โดยอ้างพนักงาน และผู้บริหารซื้อหุ้นในนามบริษัท บีซีพี คอร์ปอเรชัน ซึ่งการจดทะเบียนถือหุ้นก็มีเพียงชื่อนายชัยวัฒน์ และนายพิชัย ชุณหวชิร ประธานบอร์ดบางจากเพียง 2 คนเท่านั้น ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท และสถานที่ตั้งอยู่ในเขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. ชี้แจงว่า การขายหุ้นบางจากเพื่อลดข้อสงสัยของสังคมที่ว่า ปตท. ผูกขาดที่ถือหุ้นหลายโรงกลั่น โดยการที่ ปตท. เข้าไปถือหุ้นบางจากเป็นการช่วยด้านการเงินเมื่อปี 2547 และเมื่อบางจากเข้มแข็ง ปตท.ก็ควรจะถอนตัวออกมา

ส่วนกรณีพนักงานกลุ่มบางจาก มองว่า หากขายไปแล้วเอกชนจะเข้ามาถือหุ้นแทนจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน ก็อาจจะเป็นการวิตกมากเกินไปหรือไม่ หากมองในแง่ผู้บริโภคอาจจะทำให้เกิดการแข่งขันสูงขึ้นก็เป็นผลดีต่อระบบทั้งหมด

ด้านนายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่บางจาก กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยต่อการขายหุ้นบางจากของ ปตท. เพราะบางจากเป็นสมบัติชาติที่มีราคาช่วยสร้างความมั่นคง สนองนโยบายรัฐได้ การขายไม่ช่วยทำให้ราคาน้ำมันลดลง สูตรคำนวณราคาก็ยังเหมือนเดิม คนซื้อใช้เงิน 13,000 ล้านบาท คุมธุรกิจ 250,000 ล้านบาท น่าเสียดาย และการขายก็ไม่ได้ช่วยให้ ปตท. ลดการกล่าวหาว่าผูกขาด รู้สึกเสียดายจริงๆ ถ้ารัฐตัดสินใจขายบางจากเป็นสมบัติดี ไม่ใช่สมบัติเน่า