กรุงศรี ประกาศความสำเร็จในการควบรวมกิจการกับ BTMU สาขากรุงเทพฯ ล่าสุด มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป หรือ MUFG บริษัทแม่ได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นในกรุงศรีจาก 72% มาอยู่ที่ 76.88% ส่งผลให้กลุ่มรัตนรักษ์ถือหุ้นเพียง 20% หลังจากใช้เวลา 1 ปี ในการเตรียมการ
นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นในกรุงศรีจาก 72% มาอยู่ที่ 76.88% หลังการควบรวม ซึ่งเป็นผลจากการที่ธนาคารจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง จำนวน 1,281,618,026 หุ้น ให้แก่ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด (BTMU) ขณะที่กลุ่มรัตนรักษ์ ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นที่สำคัญของธนาคารด้วยสัดส่วนการถือครองหุ้นประมาณ 20% จากจำนวนหุ้นทั้งหมด
“2558 เป็นปีแห่งการเริ่มต้นที่สำคัญของธนาคาร โดยกรุงศรี ได้ฉลองประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ซึ่งเป็นผลจากความสำเร็จในการควบรวมกิจการ BTMU สาขากรุงเทพฯ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกรุงศรี อีกทั้งยังเป็นปีที่ธนาคารได้ดำเนินธุรกิจครบรอบ 70 ปีในอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ไทยอีกด้วย”
นายโกโตะ กล่าวว่า กรุงศรีกับประวัติศาสตร์หน้าใหม่นี้จะเป็นก้าวแห่งความมุ่งมั่นสู่การเป็นธนาคารชั้นนำด้วยความแข็งแกร่งในฐานะธนาคารที่ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร (Universal Banking) มีสัดส่วนสินเชื่อที่สมดุลระหว่างสินเชื่อเพื่อรายย่อย และสินเชื่อเพื่อธุรกิจ โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของ MUFG ซึ่งตั้งอยู่ในกว่า 40 ประเทศ และมีสำนักงานกว่า 1,100 แห่งทั่วโลก การควบรวมกิจการของ BTMU สาขากรุงเทพฯ เข้ากับกรุงศรีนี้ ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจสำหรับกรุงศรีในการสนับสนุนทางการเงินให้แก่บริษัทญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในไทยกว่า 4,000 แห่ง และนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินแก่พนักงานกว่า 700,000 คนของบริษัทดังกล่าว นอกจากนี้ การผนึกรวมกันในครั้งนี้ยังเป็นการผสานความแข็งแกร่งในระดับโลก และความเชี่ยวชาญในไทยเข้าด้วยกัน ทำให้กรุงศรีพร้อมที่จะเสริมสร้างความเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย และขยายส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจสินเชื่อ SME และธุรกิจขนาดใหญ่ต่อไป
หลังจากการควบรวมกิจการ BTMU สาขากรุงเทพฯ ซึ่งมีสินทรัพย์ 479 พันล้านบาท เข้ากับธนาคาร ทำให้ปัจจุบันกรุงศรีมีสินทรัพย์รวมสูงขึ้นถึง 1.716 ล้านล้านบาท (ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557) เทียบเคียงกับ 4 ธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของไทย โดยกรุงศรี มีสัดส่วนสินเชื่อเพื่อธุรกิจ อันประกอบด้วย สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และสินเชื่อธุรกิจ SME อยู่ที่ประมาณ 60% ขณะที่สินเชื่อเพื่อรายย่อยมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 40% ของสินเชื่อทั้งหมด” นายโกโตะ กล่าวเพิ่มเติมและว่า เพื่อเป็นการฉลองประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของกรุงศรี วันนี้ (5 ม.ค.) ธนาคารได้เปิดสาขากรุงเทพฯ สาทร ณ อาคารหะรินธร ถนนสาทร ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของ BTMU สาขากรุงเทพฯ