xs
xsm
sm
md
lg

นักวิเคราะห์คาดสัปดาห์นี้เห็นรีบาวนด์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นักวิเคราะห์เชียร์ P/E ที่ 16.5 เท่า เป็นโอกาสเข้าสะสมของนักลงทุนระยะยาว แนะเก็บหุ้นขนาดกลาง ERW-WORK รวมถึงหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมาย LTF เช่น SCB, KTB, INTUCH และ ITD ส่วนแนวรับมองที่ 1,487-1,500 จุด แข็งแกร่ง

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า การปรับลดลงของดัชนีตลาดหุ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ค่า Current PER ปรับลดลงจาก 17.2 เท่า มาอยู่ที่บริเวณ 16.5 เท่า ถือเป็นการลดความร้อนแรงลง และน่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้ปัจจัยบวกที่รออยู่เริ่มทำงาน เช่น เม็ดเงินจากกาองทุน LTF ที่ปกติจะเริ่มเข้าสู่ตลาดหุ้นช่วงปลายปี น่าจะสามารถดันดัชนีหุ้นให้เร่งตัวขึ้นได้ไม่ยาก

“น่าจะเห็นนักลงทุนสถาบันในประเทศกลับมาซื้อสุทธิในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของปี และยังมีความคาดหวังเชิงบวกในปี 2558 ถึงตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่น่าจะอยู่ที่ 3.5% และอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 15%” นายเทิดศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ที่ระดับดัชนี 1,500 จุด จะมีค่า PER สิ้นปี 2558 อยู่ในช่วง 14-14.5 เท่า ซึ่งจะให้ค่าส่วนต่างอัตราผลตอบแทนที่ระดับ 4.9-5% ภายใต้สมมติฐานอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2558 ที่ระดับประมาณ 15% ซึ่งถือเป็นระดับที่เริ่มน่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะยาว และทำให้บริเวณดังกล่าวทำหน้าที่เป็นแนวรับที่แข็งแกร่งได้

พร้อมแนะกลยุทธ์ ช่วงเวลาที่ตลาดอยู่ในช่วงปรับฐานราคาจะให้ความสำคัญไปที่การจัดพอร์ตสำหรับการลงทุนระยะยาว โดยการเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และราคายังต่ำกว่าราคาเหมาะสม เลือกหุ้นสำหรับพอร์ตลงทุนระยะยาวใน 3 Theme คือ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับลด เช่น AAV, RCL

หุ้นที่มีโอกาสเกิดการดันราคาหุ้นปิดให้สูงขึ้น หุ้นเด่น คือ HANA, BEC และสุดท้ายเป็นหุ้นที่คาดหมายว่าจะให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง ได้แก่ INUCH, BTS, TTW, STPI และ SPALI

สอดคล้องกับ นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บล.กสิกรไทย จำกัด คาดการณ์ว่าในช่วงสัปดาห์ที่เหลือของปีนี้คาดว่าเม็ดเงินลงทุนจาก LTF จะยังคงไหลเข้ามาในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่ดัชนีหุ้นไทยมีการปรับตัวลงมาค่อนข้างมากหลายวันติดต่อกัน แต่เม็ดเงินลงทุนดังกล่าวอาจจะไหลเข้ามาไม่ถึง 20,000 ล้านบาท ตามที่หลายคนคาดการณ์ไว้ เพราะนักลงทุนทยอยซื้อ LTF ไปก่อนบ้างแล้ว

กลยุทธ์การลงทุนสำหรับนักลงทุนรายย่อย แนะว่า หาจังหวะเข้าลงทุนในหลักทรัพย์กลุ่มธนาคาร กลุ่มสื่อสาร กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง อย่างหุ้น SCB, KTB, INTUCH, ITD และ GEL

และนายรณกฤต สารินวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บล.คันทรี่ กรุ๊ป กล่าวว่า การปรับตัวลงของดัชนีในรอบนี้ถือเป็นจังหวะที่เหมาะแก่การลงทุนโดยเฉพาะกองทุน LTF อย่างไรก็ดี จากความผันผวนของปัจจัยลบภายนอก LTF อาจช่วยดันดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ไม่มาก ประกอบกับสถาบันมีการสำรองเม็ดเงินลงทุนสำหรับกองทุน LTF ที่จะครบกำหนดช่วงเดือนมกราคม 2558 ด้วย

กลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนควรหาจังหวะให้ราคาหุ้นไทยนิ่ง เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มปันผล และมีอัตราการเติบโตดีต่อเนื่อง สำหรับหลักทรัพย์ที่เหมาะลงทุนในช่วงนี้ คือ หุ้นกลุ่มสื่อสาร อย่างหุ้น INTUCH และ ADVANC
กำลังโหลดความคิดเห็น