ตลาดหุ้นยุโรป และสหรัฐฯ ปรับพุ่งขึ้นแรงรับข่าว ธนาคารกลางจีน (PBOC) ทำ Surprise ด้วยการประกาศลดดอกเบี้ยเงินฝาก 1 ปี ลง 0.25% อยู่ที่ระดับ 2.75% และลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.4% อยู่ที่ระดับ 5.6% มีผลทันทีตั้งแต่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา (เป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 28 เดือน)
การตัดลดดอกเบี้ยนโยบายถือเป็นการเพิ่ม Money Supply ในระบบ ซึ่งเท่ากับเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และตลาดหุ้น ซึ่งน่าจะสร้างความเชื่อมั่นตลาดในลักษณะเดียวกับที่ญี่ปุ่น ที่ได้สร้างความประหลาดใจให้แก่ตลาด โดยการอัดฉีด QE เพิ่มขึ้น 20 ล้านล้านเยนต่อปี เป็น 80 ล้านล้านเยนต่อปี มีผลตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากถ้อยแถลง มาริโอ ดรากี ประธาน ECB ในงาน European Banking Congress เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งระบุชัดเจนถึงความจำเป็นในการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อหนุนอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายมาก ถ้อยแถลงนี้ทำให้ตลาดมีความคาดหวังไปถึงโอกาสในการที่จะเห็น ECB ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เช่น การเข้าซื้อ Government Bond หรือ Corporate Bond
บรรยากาศการลงทุนจากต่างประเทศที่ค่อนข้างผ่อนคลาย บวกกับแนวโน้มความเป็นไปได้ทางสถิติที่ SET Index มักจะมีการปรับเพิ่มขึ้นหลังจากการจัดงาน SET in The City กรุงเทพฯ ซึ่งทั้ง 5 ครั้งที่ผ่านมา จะพบว่าตลาดมักจะตอบรับดีมาก หากซื้อ ณ วันเริ่มงานและขายในอีก 1 ถึง 2 เดือนถัดไป จะให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ยกว่า 4.5 และ 7% ด้วยความน่าจะเป็นราว 60% มองว่าที่ตลาดมักจะให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงจัดงานอาจเป็นเพราะได้แรงซื้อ LTF ของผู้ที่มาเปิดบัญชีใหม่ในงานเป็นตัวหนุนสำคัญ ดูได้จากสถาบันในประเทศมักจะเป็นฝ่ายซื้อสุทธิในอีก 1 เดือนถัดมา เฉลี่ยกว่า 1 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยเหล่านี้น่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นได้วันนี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงมีความเสี่ยงในประเทศเรื่องของ Valuation ที่ค่อนแพงเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของกำไร และสัดส่วนของนักลงทุนรายบุคคลที่เน้นไปลงทุนในหุ้นขนาดเล็กมากแบบผิดปกติ อาจทำให้ดัชนีไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคง และมีโอกาสที่จะปรับลงมาอีกครั้ง นักลงทุนจึงควรระมัดระวังการลงทุนไว้เป็นอย่างสูง
Ant eye view : ไม่รู้จะเขียนอธิบายความรู้สึกยังไงเพราะมันขนลุกมาก อย่างที่บอกไปเมื่อศุกร์ที่ผ่านมา 1,568 จุด ลงต่ำกว่าระดับนี้ก็หมายถึงวินาศ เพราะ MACD จะตัดลงต่ำกว่า Signal Line ซึ่งตอนนั้นมันฉียดมากๆ ดัชนีก็เล่นลงมาปิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1,568.6 จุด โอกาสที่จะลงมันมีสูงมาก แต่สุดท้ายปาฏิหาริย์ก็บังเกิด เมื่อ 1,568 จุด เอาอยู่ และ SET ดีดกลับมาได้แบบน่าอัศจรรย์ ยิ่งกว่านั่งดูโฆษณาขายยารักษาโรคบวกขายเหรียญอัลฟาโอเมก้าแก้ได้ทุกอย่าง ตามทีวีดาวเทียม
SET Index ฟื้นจาก 1,568 จุด และมาปิดได้เกิน 1,572 จุด ภาพทางเทคนิคดูดี แต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ทำให้เห็นแล้วว่า ลงยาก ขึ้นลำบาก เห็นบวกๆ ก็พร้อมจะลงในวันถัดมา ซึ่งรอบนี้ MACD กำลังถูกบีบเข้าหา Signal Line เรื่อยๆ แสดงว่า ไม่มีโอกาสใน SET แกว่ง Side Way อีกแล้ว สัปดาห์นี้ดัชนีควรต้องเริ่มปรับเพิ่มขึ้นแบบชัดๆ ไม่งั้นก็เตรียมซึมยาว โดยต้องเริ่มจากการขึ้นผ่าน 1,587 จุด และไปปิดตัวเกิน 1,591 จุดให้ได้
กลยุทธ์การลงทุน Investment Tactic : Sentiment เชิงบวก จากที่จีนตัดลดดอกเบี้ยนโยบายลงน่าจะช่วยเพิ่ม Money Supply ในตลาดเอเซีย กลยุทธ์ให้เน้นลงทุนหุ้นที่จะมีผลประกอบการโดดเด่นในงวดไตรมาส 4 RS, STPI, AP, DEMCO, ERW, ADVANC โดยยังเลือก RS เป็น Top pick
หุ้นที่มีโอกาสถูกเข้าคำนวณใน SET50 Index เลือก SPALI และ SET100 Index เลือก DEMCO
Portfolio Update : ADVANC, AP, ERW, PTT, RS, SCB, STPI, SRICHA, INTUCH
ประกิต สิริวัฒนเกตุ
Prakit Siriwattanaket
Strategist and Technical Analyst
ASIA PLUS SECURITIES PUBLIC CO LTD
prakit@asiaplus.co.th