xs
xsm
sm
md
lg

หลีกเลี่ยงหุ้น MEDIA จับตา ศก.โลกกดดันทอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTV Stock Market ในเครือ “ASTVผู้จัดการ” นำเสนอรายการ “เข็มทิศตลาดทุน” ซึ่งนำเสนอข้อมูลข่าวสารแนวโน้มการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย และการลงทุนในทองคำให้แก่นักลงทุน และผู้ที่สนใจ

เริ่มที่ช่วง“กูรูแนะทิศทาง”ในครั้งนี้ “เกรียงไกร ทำนุทัศน์” หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.เออีซี ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยกับเป้าหมายสิ้นปีที่ระดับ 1,700 จุด ว่า ไตรมาสที่ 4 เรายังเชื่อว่า Set Index ยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อไปได้เรื่อยๆ แต่อาจมีการปรับฐานบ้างเป็นรอบๆ อย่างไรก็ตาม เราจะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดขึ้นจนถึงระดับ 1,700 จุด เหตุหลักมาจากปริมาณการซื้อขายหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ ที่เริ่มกลับมามากขึ้น ที่สำคัญพบสัญญาณว่ามีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาในกลุ่มหุ้นบิ๊กแคป หรือ Set 50 มากขึ้น

สำหรับกลุ่มหุ้นที่น่าลงทุนในตอนนี้ 40% ของพอร์ตมองไปที่การเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่มบิ๊กแคป โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงานที่หลายตัวปรับตัวลดลงไปมาก ถัดมาคือกลุ่มโรงแรม โดยเฉพาะบริษัทที่มีการซื้อสินทรัพย์เข้ามเพิ่มอย่างต่อเนื่อง  ส่วนอีก 60% มองถึงกลุ่มพลังานทดแทน โรงไฟฟ้า รวมถึงธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ที่คาดว่าจะกลับมใาเติบโตในปีหน้า โดย Top Hit ของ บล.เออีซี มี 3 ตัว ได้แก่  CKP TPIPL และ SF

ด้านกลุ่มหุ้นที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงนี้ มองว่า แนวโน้มธุรกิจยังฟื้นตัวไม่ค่อยดี และอาจต่อเนื่องบไปจนถึงปีหน้านั่นคือ อุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง เพราะการลงทุนในทีวีดิจิตอล เชื่อว่ากว่าจะคุ้มทุนต้องใช้เวลาร่วม 2 ปี ซึ่งตอนนี้ราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวเริ่มถูกจนอาจจะมีการรีบาวนด์บ้าง แต่ยังมองว่าไม่สามารถกลับมาโดดเด่นในปีหน้าได้ จึงให้น้ำหนักต่ำกว่าตลาด    
 


              ขณะที่ช่วง “ส่องกล้อง Fututrs & Commodity”ด้าน “วรุต รุ่งขำ” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส ประเมินทิศทางราคาทองคำในช่วงนี้ ว่า หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวลงไปทดสอบจุดต่ำสุดที่ 1,183 เหรียญ/ออนซ์ ทำให้มีแรงซื้อหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาผ่าน 1,200 เหรียญ/ออนซ์ โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากความกังวลต่อปัญหาการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐของที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ยังแข็งค่าต่อเนื่อง ทำให้ประสบปัญหาเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งหากเกิดขึ้นอาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง เหตุดังกล่าวทำให้สกุลดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง และราคาทองคำได้รีบาวนด์ขึ้นมาค่อนข้างมาก

ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้ยังคงเคลื่อนไหวไปกับตัวเลขเศรษฐกิจของป่ระเทศขนาดใหญ่ เริ่มที่จีน ซึ่งจะมีการประการตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆออกมามาก ทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้าสะสมทราคาทองคำมากนัก หลังราคาภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนมีแนวโน้มอ่อนตัวลง ทำให้คาดว่าตัวเลขยอดการค้า และการส่งออกของจีนที่จะประกาศออกมาอาจจะไม่สู้ดีนัก

ส่วนฝั่งยุโรป ตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ เนื่องจากที่ผ่านมา ตัวเลขการค้าของเยอรมนีที่เป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของยูโรโซนยังคงปรับตัวลงค่อนข้างมาก ดังนั้น จึงมีการประเมินว่าเยอรมนีอาจมีการปรับเปลี่ยนตัวเลขเศรษฐกิจ หรือลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลง ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะสร้างความผันผวนให้ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง และจะฉุดให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงด้วย

“แนวโน้มการลงทุน แนะนำให้ติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ จีน  และยุโรป ซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ โดยแนวรับ1,200-1,180 เหรียญ/ออนซ์ แนวต้าน 1,240 -1,270 เหรียญ/ออนซ์ แต่ถ้าราคายังไม่อาจอยู่เหนือ 1,240 เหรียญ/ออนซ์ แนะนำให้นักลงทุนแบ่งทองคำออกมาขายบางส่วน รอการย่อตัวลงมา แต่หากยืนเหนือ 1,240 เหรียญ/ออนซ์ได้ มองว่าโมเมนตัมราคาทองคำยังเป็นบวก นักลงทุนยังสามารถเข้าเก็งกำไรราคาทองคำได้อีก”
กำลังโหลดความคิดเห็น