xs
xsm
sm
md
lg

ปรับตัวรับหุ้นไทยปรับฐาน ทองคำต้องติดตามค่าบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTV Stock Market ในเครือ “ASTVผู้จัดการ” นำเสนอรายการ “เข็มทิศตลาดทุน” เพื่อนำเสนอข้อมูลข่าวสารแนวโน้มการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย และการลงทุนในทองคำผ่านรายการดังกล่าวใน 2 ช่วงรายการ ได้แก่  “กูรูแนะทิศทาง” ที่จะนำความคิดเห็นจากโบรกเกอร์ชั้นนำ มาช่วยประเมินทิศทางของตลาด และแนะนำถึงโอกาสในการเข้าลงทุนกลุ่มต่างๆ ขณะที่ช่วง “ส่องกล้อง Fututrs & Commodity” จะนำเสนอทิศทางราคาทองคำ ปัจจัยที่มีผลต่อการปรับตัวขึ้นลงของราคา ผ่านผู้บริหาร 



 
เริ่มที่ช่วง “กูรูแนะทิศทาง”  ธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี จำกัด มองตลาดหุ้นไทยว่า ในช่วงที่ผ่านมา หุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแล้วกว่า 18% หรือ 200 กว่าจุด ขณะที่หากนับตั้งแต่มี คสช.เข้ามาก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% เพราะเป็นสิ่งที่นักลงทุนคาดหวังนั่นคือ ปัญหาทางการเมืองในปนะเทศสามารถคลี่คลายลงได้ ทำให้เศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว และสะท้อนเข้ามาในตลาดทุนแล้ว เห็นได้จากที่ P/E ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 15 เท่า แต่ก็ถือว่าไม่ได้เแพงมากไป และถือว่าไม่ได้ถูกแล้ว เพราะราคาหุ้นสะท้อนออกมาแล้วค่อนข้างเยอะ

ดังนั้น ในเดือนสิงหาคม สิ่งที่น่าสใจ และติดตามคือ 1.ราคาหุ้นที่สะท้อนการปรับตัวทางเศรษฐกิจและการเมืองที่คลี่คลาย ซึ่งปรับตัวขึ้นมามากแล้ว 2.ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในช่วงครึ่งปี หรือไตรมาส2 และ 3.สถานการณ์ในต่างประเทศ เช่น อัตราดอกเบี้ย หรือเศรษฐกิจของยุโรปที่มีความเสี่ยง และถือเป็นปัจจัยหลักที่มีอาจทำให้มีการปรับฐานที่ใหญ่ โดยเฉพาะสิ่งที่น่ากังวลคือ การปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของดัชนีดาวโจนส์ 

“สิงหาคมผมมองว่าเป็นช่วงที่เราจะเห็น Set Index มีการปรับฐาน อาจปรับตัวลึกลงมาอยู่ที่ 1,450  จุด กรอบแนวบน 1,540 จุด นักลงทุนอาจต้องปรับฐานการลงทุนเพื่อรอซื้อรอบใหม่”

สำหรับ “ส่องกล้อง Fututrs & Commodity” รุต  รุ่งขำ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส ประเมินทิศทางราคาทองคำในช่วงนี้ว่า การอ่อนตัวของราคาทองคำ ได้รับแรงกดันจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มสดใสมากขึ้น โดยคาดว่าการเติบโตเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทั้งปีจะมีการเติบโตในระดับ 2% ทำให้ในช่วงที่เหลือของปีนี้การเติบโตจะเป็นไปในรูปแบบแนวโน้มที่สดใส ซึ่งหนุนให้เงินดอลลาร์ทะยานขึ้น  กดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำออกมา

ทั้งนี้ YLG ประเมินแนวรับราคาทองคำในช่วงนี้ไว้ที่ 1,230-1,260 เหรียญ/ออนซ์ และแนวต้าน 1,310-1,330 เหรียญ/ออนซ์ นักลงทุนที่ถือครองทองคำไว้ หากราคาปรับตัวขึ้นแต่ไม่สามารถยืนเหนือ 1,310 เหรียญ/ออนซ์ได้ อาจต้องทำการแบ่งขายทองคำออกมา แต่หากผ่านมาได้สามารถชะลอการขายเพื่อรอไปขายทำกำไรในแนวต้านที่ 1,330 เหรียญ/ออนซ์

ส่วนนักลงทุนที่ต้องการสะสมทองคำเพิ่มเติม ช่วงนี้แนะนำให้ชะลอการเข้าลงทุนออกไปก่อน แต่หากรับความเสี่ยงได้ การเข้าลงทุนเมื่อราคาทองคำลงมาที่ 1,260 เหรียญ/ออนซ์ มีความน่าสนใจเข้าลงทุน เพื่อรอไปทำกำไรระยะสั้นเมื่อทองคำดีดตัวกลับขึ้นไป

สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำที่ต้องติดตาม คือ การประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางยุโรป หลังอัตราเงินเฟ้อยังปรับตัวลดลงอยู่ในโซนอันตราย และต้องติดตามตัวเลขอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ตัวเลขเศรษฐกิจจีน รวมถึงความผันผวนของค่าเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐ
กำลังโหลดความคิดเห็น