บล.โกลเบล็ก เผยการเมือง-เศรษฐกิจ หนุนภาพรวมของเศรษฐกิจฟื้นตัว ส่งผลนักลงทุนต่างชาติกลับมาเชื่อมั่นในการลงทุนตลาดหุ้นไทย เชื่อจากภาคการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับงบผลประกอบการไตรมาส 3/2557 ที่ส่อแววฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลทาง GBS เตรียมปรับเป้าดัชนีตลาดหุ้นไทยใหม่อีกครั้งจากปัจจุบันให้ไว้ 1,650-1,651 จุด พร้อมแนะกลยุทธ์ ลงทุนในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างและธนาคารพาณิชย์เป็นหลัก
นายธวัชชัย อัศวพรไชย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางการเมืองที่มีพัฒนาการที่ดีขึ้น เป็นปัจจัยหนุนให้ดัชนีมีการฟื้นตัว โดยเฉพาะแนวทางการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจ (โรดแมป) และการลงทุนต่างๆ พร้อมกับช่วงเวลาในการดำเนินการอย่างชัดเจน ซึ่งทางฝ่ายวิจัย มีแนวโน้มที่จะปรับประมาณการระดับดัชนี และระดับราคาเป้าหมายของหุ้นรายหลักทรัพย์ (Cover) ใหม่ ภายหลังการแถลงแผนการบริหารประเทศและแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้น
ทั้งนี้ หากจะสังเกตได้จากดัชนีตลาดหุ้นไทยตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า มีแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้น แม้ว่าจะมีกำหนดระยะเวลาในการบริหารและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ให้ได้ภายใน 1 ปี โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 ที่ระดับ 1,375 จุด และปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
“ตอนนี้ ทาง บล.โกลเบล็ก ยังคงประมาณการดัชนีไว้ที่ระดับเดิมที่ 1,650-1,651 จุด แต่คาดหลังจากที่มีการประกาศงบผลประกอบการไตรมาส 3/2557 ทาง บล.โกลเบล็ก มีโอกาสที่จะปรับเป้าดัชนีภายในปีนี้ใหม่อีกครั้ง เนื่องจากมองว่า ผลจากผลประกอบการบางบริษัท มีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาลจะส่งผลเชิงบวกโดยรวมมากขึ้น”
ขณะเดียวกัน การจัดตั้งรัฐบาลและการวางทีมเศรษฐกิจที่ชัดเจน ประกอบกับนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมไปถึงการอนุมัติ แผนการลงทุนในโครงการต่างๆ อีกทั้งยังมีประเด็นการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในช่วงปลายปี 2558 ถือว่าเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญที่สร้างความเชื่อมั่น ให้กับนักลงทุนต่างชาติ พร้อมจะกลับเข้ามาลงทุนกับตลาดหุ้นไทย โดยเป็นการสะท้อนผ่านยอดการซื้อขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นที่มีทิศทางเป็นบวกมากขึ้น
“จากความพยายามขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล เพื่อให้การเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น และการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการเปิดซองประมูลโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าสายต่างๆ เม็ดเงินลงทุนจากกองทุน RMF และ LTF บวกกับการคาดการตัวเลข GDP ในไตรมาส 3และ 4 จะดีขึ้น และคาดว่าในช่วงเดือนตุลาคมปีหน้าจะมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวก สร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย”
อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยดังกล่าวในข้างต้น ทาง บล.โกลเบล็ก แนะนำกลยุทธ์การลงทุน โดยให้กรอบสัญญาทางเทคนิค แนวรับที่ระดับ 1,551-1,542 และ 1,521 จุด ตามลำดับ โดยแนะเลือกลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ เนื่องจากโรดแมปของรัฐบาลชุดใหม่ จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ และปีงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ซึ่งจะเริ่มต้นวันที่ 1 ตุลาคม 2557
ทั้งนี้แนะนำหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากโครงการผลักดันการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ กลุ่มรับเหมาก่อสร้างและกลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ยังแนะลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ จากการที่งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 มีการจัดสรรให้กับกระทรวงศึกษาธิการมากที่สุด ดังนั้น หุ้นที่ได้ประโยชน์น่าจะเป็นหุ้นที่ทำในเรื่องการวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ กลุ่มค้าปลีก ซึ่งเป็นกลุ่มที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการกระตุ้นรายได้จากภาคผู้บริโภค และสุดท้าย คือ กลุ่มท่องเที่ยว ที่ได้รับประโยชน์หากมีการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในช่วงไฮซีซัน