“ทีวี ไดเร็ค” เผยแนวโน้มผลงาน Q3/57 ยังไปได้สวย อานิสงส์สินค้ามีความหลากหลายตรงใจผู้บริโภค แถมมีพันธมิตรต่างชาติช่วยหนุนธุรกิจ ด้านบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นหุ้น ในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 0.38 หุ้นปันผล และเงินสดอีก 0.02 บาทต่อหุ้น ส่วนผลประกอบการ 6 เดือนแรก มีกำไรสุทธิ 31.77 ล้านบาท พร้อมมั่นใจรายได้ปีนี้ทำได้ตามเป้าทะลุ 2.5 พันล้านบาท
ดร.อาทิตย์ น้อยเจริญ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) (TVD) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้า และบริการผ่านช่องทางการตลาดที่หลากหลาย (Multichannel Marketing) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3/2557 มีแนวโน้มออกมาในทิศทางที่ดี เนื่องจากมีสินค้าที่หลากหลายตรงต่อความต้องการของผู้บริโภค ประกอบกับมีพันธมิตรทางธุรกิจที่สามารถนำจุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และช่วยสร้างความโดดเด่นให้แก่บริษัท เพื่อรองรับการเติบโตของตลาด และโอกาสในการดำเนินธุรกิจในอนาคต
สำหรับรายได้ในปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมายคือ ทะลุ 2,500 ล้านบาท หรือเติบโต 15% จากปี 2556 ที่มีรายได้อยู่ที่ 2,231.25 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) คาดว่าจะทำได้ 3.5-4.5 ปรับลงเล็กน้อยจากสถานการณ์จอดำเกือบ 30 วัน ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน บริษัทมีร้านค้าปลีกถึง 78 สาขา ใน 40 จังหวัด รวมทั้งมีช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านโมเดิร์นเทรด ทั้ง บิ๊กซี เทสโก้โลตัส แม็คโคร ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และเซเว่น อีเลฟเว่น
ดร.อาทิตย์ กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2/2557 มีกำไรสุทธิ 6.18 ล้านบาท และช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้มีกำไรสุทธิ 31.77 ล้านบาท โดยในช่วงที่ผ่านมา ยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งทำสถานีโทรทัศน์ต่างๆ งดการออกอากาศของรายการปกติ (จอดำ) จึงทำให้ธุรกิจขายสินค้าทางทีวี (DRTV) และ Home Shopping ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ดังนั้น บริษัทจึงหารายได้จากธุรกิจอื่น เช่น การขายตรง การขายผ่านแค็ตตาล็อก และการขายผ่านเว็บไซต์ (E-commerce) เข้ามาช่วยชดเชยรายได้ที่หายไป ซึ่งทำได้ดีตามเป้าถึงแม้จะมีต้นทุนที่สูงขึ้นมาบางส่วน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลระหว่างกาลงวดการดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม 2557 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2557 แก่ผู้ถือหุ้น เป็นหุ้นปันผล และเงินสด โดยหุ้นปันผลจ่ายในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 0.38297847569 หุ้นปันผล และเงินสดจ่ายในอัตรา 0.021276581983 บาทต่อหุ้น โดยวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือวันที่ 2 ตุลาคม 2557 วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) คือ วันที่ 6 ตุลาคม 2557 และวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลคือ วันที่ 7 ตุลาคม 2557
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทยังมีมติลดทุนจดทะเบียนจาก 246,750,000 บาท เป็น 246,749,886 บาท โดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย และไม่ได้มีไว้เพื่อรองรับการแปลงสภาพหลักทรัพย์ใดๆ ของบริษัท จำนวน 228 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 0.50 บาท พร้อมทั้งเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 246,749,886 บาท เป็น 341,250,035 บาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่ จำนวน 189,000,298 หุ้น มูลค่าที่ ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท รวม 94,500,149 บาท เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล และรองรับการปรับสิทธิของหลักทรัพย์แปลงสภาพ
ดร.อาทิตย์ น้อยเจริญ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) (TVD) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้า และบริการผ่านช่องทางการตลาดที่หลากหลาย (Multichannel Marketing) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3/2557 มีแนวโน้มออกมาในทิศทางที่ดี เนื่องจากมีสินค้าที่หลากหลายตรงต่อความต้องการของผู้บริโภค ประกอบกับมีพันธมิตรทางธุรกิจที่สามารถนำจุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และช่วยสร้างความโดดเด่นให้แก่บริษัท เพื่อรองรับการเติบโตของตลาด และโอกาสในการดำเนินธุรกิจในอนาคต
สำหรับรายได้ในปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมายคือ ทะลุ 2,500 ล้านบาท หรือเติบโต 15% จากปี 2556 ที่มีรายได้อยู่ที่ 2,231.25 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) คาดว่าจะทำได้ 3.5-4.5 ปรับลงเล็กน้อยจากสถานการณ์จอดำเกือบ 30 วัน ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน บริษัทมีร้านค้าปลีกถึง 78 สาขา ใน 40 จังหวัด รวมทั้งมีช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านโมเดิร์นเทรด ทั้ง บิ๊กซี เทสโก้โลตัส แม็คโคร ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และเซเว่น อีเลฟเว่น
ดร.อาทิตย์ กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2/2557 มีกำไรสุทธิ 6.18 ล้านบาท และช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้มีกำไรสุทธิ 31.77 ล้านบาท โดยในช่วงที่ผ่านมา ยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งทำสถานีโทรทัศน์ต่างๆ งดการออกอากาศของรายการปกติ (จอดำ) จึงทำให้ธุรกิจขายสินค้าทางทีวี (DRTV) และ Home Shopping ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ดังนั้น บริษัทจึงหารายได้จากธุรกิจอื่น เช่น การขายตรง การขายผ่านแค็ตตาล็อก และการขายผ่านเว็บไซต์ (E-commerce) เข้ามาช่วยชดเชยรายได้ที่หายไป ซึ่งทำได้ดีตามเป้าถึงแม้จะมีต้นทุนที่สูงขึ้นมาบางส่วน
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลระหว่างกาลงวดการดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม 2557 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2557 แก่ผู้ถือหุ้น เป็นหุ้นปันผล และเงินสด โดยหุ้นปันผลจ่ายในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 0.38297847569 หุ้นปันผล และเงินสดจ่ายในอัตรา 0.021276581983 บาทต่อหุ้น โดยวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือวันที่ 2 ตุลาคม 2557 วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) คือ วันที่ 6 ตุลาคม 2557 และวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลคือ วันที่ 7 ตุลาคม 2557
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทยังมีมติลดทุนจดทะเบียนจาก 246,750,000 บาท เป็น 246,749,886 บาท โดยการตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย และไม่ได้มีไว้เพื่อรองรับการแปลงสภาพหลักทรัพย์ใดๆ ของบริษัท จำนวน 228 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 0.50 บาท พร้อมทั้งเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 246,749,886 บาท เป็น 341,250,035 บาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่ จำนวน 189,000,298 หุ้น มูลค่าที่ ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท รวม 94,500,149 บาท เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล และรองรับการปรับสิทธิของหลักทรัพย์แปลงสภาพ