“คลัง” เผยแนวทางเข้าลงทุนท่อส่งก๊าซ “ปตท.” เล็งดันกองทุน “วายุภักษ์” เข้าถือหุ้น

ปลัด “คลัง” เผยแนวทางเข้าลงทุนท่อส่งก๊าซ “ปตท.” เล็งดันกองทุน “วายุภักษ์” เข้าถือหุ้น หลังมติ กพช.ไฟเขียวให้แยกธุรกิจท่อส่งก๊าซเป็นบริษัทจำกัด ให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย. 2558 แต่ขอดูความพร้อมทางการเงินให้ชัดเจนก่อน

นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังศึกษาแนวทางที่กระทรวงการคลังจะเข้าไปลงทุนในบริษัทท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ที่กำลังจะจัดตั้งใหม่ โดยแนวทางดังกล่าวรวมถึงการให้กองทุนวายุภักษ์เข้าถือหุ้นด้วย

สำหรับแผนในการแยกท่อส่งก๊าซของ ปตท.ออกเป็นบริษัทนั้น เบื้องต้น ปตท.จะเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว 100% ขณะที่ปัจจุบัน กระทรวงการคลัง ถือหุ้นใน ปตท.ราว 51% และกองทุนวายุภักษ์ถือหุ้นใน ปตท.ในราว 14% เท่ากับว่าปัจจุบัน กระทรวงการคลังก็ถือหุ้นในบริษัทท่อก๊าซฯ ดังกล่าวทางอ้อมแล้วประมาณ 65%

ส่วนกรณีนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) ระบุถึงความไม่โปร่งใสในการนำส่งคืนท่อก๊าซของ ปตท. โดยยืนยันว่า ปตท.ได้ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดในการโอนสินทรัพย์ท่อก๊าซที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ด้วยการใช้อำนาจรัฐทั้งเวนคืนและรอนสิทธิ์ในช่วงก่อนการแปรรูป ปตท.คืนให้กระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ปี 2551 ประเมินป็นมูลค่าทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท โดยไม่นับรวมถึงระบบท่อในท้องทะเล

โดยสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เป็นผู้ตรวจสอบและมีการตั้งคณะทำงานพิจารณาแล้ว พบว่า ปตท.ได้คืนที่ดินในส่วนของการเวนคืนที่ราชพัสดุ ส่วนกรณีการทวงถามถึงท่อส่งก๊าซในท้องทะเล เพื่อให้กลับมาเป็นสมบัติสาธารณะของแผ่นดินด้วยนั้น กรมธนารักษ์รายงานให้ทราบแล้ว ท่อก๊าซในทะเลวางอยู่บนพื้นน้ำ ไม่ได้อยู่ในใต้ดิน จึงไม่จำเป็นต้องส่งคืนให้กับภาครัฐ เพราะไม่ได้เป็นส่วนควบของที่ดิน ซึ่งเป็นไปตามมติของ ครม. และคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งได้พิจารณาแล้ว

นายรังสรรค์ ยังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ได้สั่งการให้ ปตท. ดำเนินการแยกท่อก๊าซจากกิจการของ ปตท. ด้วยการตั้งเป็นบริษัทลูก และให้กระทรวงการคลังถือหุ้น 25% เบื้องต้น กระทรวงการคลังเตรียมให้กองทุนวายุภักษ์เข้าถือหุ้น แต่ขอดูความพร้อมทางด้านการเงินให้ชัดเจน

ขณะที่เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน คณะกรรมการ กพช.ได้อนุมัติการแยกกิจการท่อส่งก๊าซฯ ของ ปตท. ออกจากกิจการจัดหาและจำหน่ายก๊าซธรรมชาติมาเป็นบริษัทจำกัด ให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย. 2558 และให้กระทรวงการคลังพิจารณา เข้าถือหุ้นตามสัดส่วนได้ต่อไป โดยเบื้องต้นคาดว่า การถือหุ้นจะอยู่ระดับ 25%

โดยเมื่อต้นสัปดาห์นี้ นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจ โครงสร้างพื้นฐานของ ปตท. เปิดเผยว่า ปตท.พร้อมจะแยกธุรกิจท่อส่งก๊าซฯ ซึ่งมีมูลค่าตามบัญชีสูงราว 1.8 แสนล้านบาท ออกมาเป็นบริษัทจำกัดในปี 2558

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีท่อส่งก๊าซฯ หลัก 3 เส้น ซึ่งอยู่ในทะเลและอยู่ระหว่างสร้างท่อ ส่งก๊าซฯ เส้นที่ 4 บนบก มูลค่า 3.9 หมื่นล้านบาท จะแล้วเสร็จในปลายปีหน้า นอกจากนี้ ยังมีท่อส่งก๊าซฯ ย่อยอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งด้วย

สำหรับช่วงแรกการแยกออกมา โดยทาง ปตท.ยังถือหุ้น 100% แต่หากกระทรวงการคลังจะเข้ามาถือหุ้นด้วย ก็ต้องเป็นการซื้อหุ้นจาก ปตท. ทั้งนี้ การแยกกิจการท่อส่งก๊าซดังกล่าว เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลที่สาม (Third Party Access Regime: TPA Regime) เข้ามาใช้บริการท่อส่งก๊าซฯ ดังกล่าว