“โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส” เดินหน้าบุกงานภาคเอกชนทั้งในประเทศ และ AEC ตั้งเป้ารับงานใหม่เพิ่ม 200 ล้านบาท พร้อมตั้งแผนกใหม่ดูแลงานรัฐ คาดเริ่มรับงานไตรมาส 4 ปีนี้ โชว์ผลประกอบการครึ่งปีแรกกำไร 13.27 ล้านบาท เติบโต 56.03%
นายธัช ธงภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (PPS) ผู้นำธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้าง เปิดเผยว่า กลุ่มลูกค้าเดิม และกลุ่มลูกค้าใหม่ของบริษัทมีแนวโน้มลงทุนในโครงการใหม่มากขึ้น ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการเสนองานบริหารโครงการก่อสร้างจำนวนหลายโครงการ ตลอดจนมีการเจรจากับพันธมิตรในประเทศลาว และกัมพูชา เพื่อดำเนินโครงการร่วมกันทั้งในส่วนของงานบริหารโครงการ และงานออกแบบ คาดว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะเข้ารับงานเพิ่ม คิดเป็นมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท และส่งผลให้มูลค่างานในมือ (Backlog) ของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 400 ล้านบาท ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 210 ล้านบาท (สิ้นสุดเดือน ก.ค.2557)
นอกจากนี้ ยังคาดว่าในช่วงไตรมาส 4 โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐจะมีความชัดเจนในการเริ่มดำเนินโครงการมากขึ้น ซึ่งบริษัทได้มีการตั้งแผนกงานบริหารโครงการก่อสร้างภาครัฐขึ้นใหม่ เพื่อมุ่งเน้นการติดตามศึกษาข้อมูลของโครงการ เตรียมความพร้อม ตลอดจนประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเข้ารับงานรูปแบบต่างๆ
“ในช่วงครึ่งปีหลัง นอกเหนือจากการบุกงานในด้านต่างๆ ให้มากขึ้นแล้ว เรายังต้องมุ่งเน้นการบริหารต้นทุนให้อยู่ในระดับเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารจัดการด้านบุคลากรที่ดี เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้กำไรในครึ่งปีแรกอยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ มีการเติบโต” นายธัช กล่าว
สำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก 2557 ของบริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น จำนวน 138.92 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.71 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม จำนวน 134.21 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.51% และมีกำไรสุทธิ จำนวน 13.27 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.76 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ จำนวน 8.50 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 56.03%
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น จำนวน 66.12 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 5.06 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม จำนวน 71.19 ล้านบาท หรือปรับตัวลดลง 7.11% และมีกำไรสุทธิ จำนวน 5.23 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 0.75 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ จำนวน 5.98 ล้านบาท หรือปรับตัวลดลง 12.52 %
ทั้งนี้ ผลประกอบการของบริษัทในรอบครึ่งปีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการรับรู้รายได้งานบริหารโครงการก่อสร้างของกลุ่มลูกค้าในภาคเอกชนเป็นหลัก ประกอบกับมีการบริหารจัดการต้นทุนการดำเนินงานที่ดี ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทอยู่ในเกณฑ์ดีที่ 34.92% ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะมุ่งเน้นการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้เป็นไปตามเป้าหมาย อย่างไรก็ดี ผลประกอบการในครึ่งปีแรกยังเติบโตไม่ได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากผลกระทบของสภาวะความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ