ก่อนอื่นมาทำความรู้จักก่อนว่า REIT คืออะไร REIT หรือ Real Estate Investment Trust คือ กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินในรูปแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้ โดย REIT มีการออกและเสนอขายอย่างกว้างขวางและเป็นที่นิยมของนักลงทุนในตลาดต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และฮ่องกง เป็นต้น โดย REIT จะเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่จะมาแทนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) ที่จะไม่สามารถจัดตั้งกองใหม่เพิ่มเติมหรือขยายการลงทุนในกองเดิมได้อีกต่อไป ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2557 ซึ่ง กฎเกณฑ์ของ REIT นั้น จะมีรูปแบบที่มีความเป็นสากลและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น เช่น การไม่จำกัดประเภทของอสังหาริมทรัพย์ที่กองทรัสต์สามารถลงทุนได้ การกู้เงินของกองทรัสต์ซึ่งในระดับปกติสามารถกู้เงินได้ในระดับ 35% ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของกองทรัสต์ และสามารถทำได้ในระดับสูงสุด 60% ของสินทรัพย์รวมของกองทรัสต์ ในกรณีที่กองทรัสต์ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อในระดับที่ลงทุนได้ (Investment Grade) การเพิ่มสัดส่วนการถือหน่วยทรัสต์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ถึงระดับ 50% ของจำนวนหน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายทั้งหมด รวมถึงรูปแบบการกำกับดูแลที่มีความเป็นสากลมากขึ้น โดยกองทรัสต์จะทำการระดมทุนจากผู้ลงทุน เพื่อนำเงินที่ได้ไปซื้อ (Freehold) หรือ เช่า (Leasehold) ทรัพย์สินระยะยาว โดยมีผู้จัดการกองทรัสต์ (REIT Manager) ทำหน้าที่ในการขออนุญาตออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์และจัดตั้งกองทรัสต์ และนำเงินทุนที่ระดมได้ไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เพื่อนำไปจัดหาประโยชน์ในเชิงพาณิชย์โดยการให้เช่าหรือให้บริการพื้นที่ของทรัพย์สิน ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทรัสต์จะทำหน้าที่กำหนดนโยบายและกลยุทธ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาผลประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ของกองทรัสต์ รวมถึงควบคุม ดูแล และติดตามการดำเนินงานของกองทรัสต์ให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ เมื่อกองทรัสต์ได้รับผลกำไรก็จะนำไปจ่ายเป็นประโยชน์ตอบแทน (Distribution) ให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ ในอัตราไม่ต่ำกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของกองทรัสต์ในแต่ละปี
ทั้งนี้ การลงทุนในรูปแบบของกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) จะเป็นทางเลือกการลงทุนที่นักลงทุนจะได้รับประโยชน์ในหลายๆ ด้าน กล่าวคือ นักลงทุนไม่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากเหมือนกับการลงทุนโดยตรงในอสังหาริมทรัพย์ และนักลงทุนจะมีทางเลือกในการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้หลากหลายประเภทมากขึ้น (เช่น ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม ฯลฯ) ในขณะเดียวกันนักลงทุนก็จะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในระดับที่ดี ภายใต้การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ของผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ การลงทุนใน REIT จะเป็นทางเลือกการลงทุนที่เน้นการได้รับผลตอบแทนในรูปส่วนแบ่งกำไรที่มีความสม่ำเสมอในระยะยาว รวมถึงมีโอกาสได้รับกำไรจากการเพิ่มขึ้นของราคาประเมิน (Appraised Value) ของอสังหาริมทรัพย์ที่ REIT ลงทุน ซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งสองแบบรวมกันในระยะยาวจะสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ รวมถึงผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ภาคเอกชนซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade Corporate Bond)
และเร็วๆ นี้ เตรียมพบกับข้อเสนอใหม่......ที่ว่า “จะดีมั้ยถ้าคุณได้เป็นเจ้าของ “อิมแพ็ค เมืองทองธานี”
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)