แลนด์ฯ แจงไตรมาส 2 ยอดขาย 7,075.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,518.19 ล้านบาท คิดเป็น 27.32% ด้านกำไรสุทธิ 1,985.31 ล้านบาท เติบโต 20.31% จากงวดเดียวกันของปี 2556 ด้าน “โนเบิล” กําไรสุทธิพุ่ง 118.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102.64 ล้านบาท “ศุภาลัย” แจงยอดโอน Q2/57 กว่า 2,552.41 ล้านบาท เพิ่มจาก Q2/56 กว่า 749.44 ล้านบาท หรือกว่า 42% ส่งผลให้มีกําไรสุทธิ 529.90 ล้านบาท หรือโตจากปีก่อน 75% เหตุรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ เพิ่มขึ้น “เสนา” ระบุ โครงการแนวสูงดันรายได้รวมโตต่อ เผยยอดรับรู้รายได้ 1,003.79ล้านบาท กำไรสุทธิ 133.57ล้านบาท
แลนด์ฯ แจงไตรมาส 2 ยอดขาย 7,075.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,518.19 ล้านบาท คิดเป็น 27.32% ด้านกำไรสุทธิ 1,985.31 ล้านบาท เติบโต20.31% จากงวดเดียวกันของปี 2556 ด้าน “โนเบิล” กําไรสุทธิพุ่ง 118.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102.64 ล้านบาท “ศุภาลัย” แจงยอดโอน Q2/57 กว่า 2,552.41 ล้านบาท เพิ่มจาก Q2/56 กว่า 749.44 ล้านบาท หรือกว่า 42% ส่งผลให้มีกําไรสุทธิ 529.90 ล้านบาท หรือโตจากปีก่อน 75% เหตุรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ เพิ่มขึ้น “เสนา” ระบุ โครงการแนวสูงดันรายได้รวมโตต่อ เผยยอดรับรู้รายได้ 1,003.79 ล้านบาท กำไรสุทธิ 133.57 ล้านบาท
นายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2/57 ของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานรวม 1,985.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 335.16 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20.31% จากงวดเดียวกันของปี 2556 ที่มีกำไรสุทธิ 1,650.15 ล้านบาท
ส่วนรายได้จากการขายในไตรมาสนี้อยู่ที่ 7,075.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,518.19 ล้านบาท คิดเป็น 27.32% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีรายได้จากการขาย 5,557.03 ล้านบาท โดยรายได้ในไตรมาสนี้เกิดจากการโอนคอนโดมีเนียมเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 968 ล้านบาท การโอนบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น 541 ล้านบาท ขณะที่การโอนทาวน์เฮาส์ลดลง 116 ล้านบาท และการโอนที่ดินเปล่าเพิ่มขึ้น 125 ล้านบาท
สำหรับรายได้จากค่าเช่าและค่าบริการเช่าในไตรมาสนี้อยู่ที่ 532.48 ล้านบาท ในขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีจำนวนเท่ากับ 487.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.68 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.16% จากรายได้ค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ในสหรัฐอเมริกา 2 แห่ง ในขณะที่รายได้ค่าเช่าจากธุรกิจให้เช่าในประเทศลดลงจากภาวะการเมืองในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ แลนด์ฯ ยังมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 588.60 ล้านบาท ในขณะที่ช่วงเดียวกันของปี ก่อน บริษัทฯ มีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 605.49 ล้านบาท ลดลง 16.89 ล้านบาท
ด้าน นายสิทธิ ลีละเกษมฤกษ์ กรรมการผู้มีอํานาจรายงานสารสนเทศ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2557 บริษัท มีผลกําไรสุทธิ 118.46 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิเพิ่มสูงขึ้น 102.64 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2556 ซึ่งมีผลกําไรสุทธิ 15.82 ล้านบาท
โดยในไตรมาส 2 บริษัทมีการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น โดยมีรายได้จากการขาย-ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 864.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 398.02 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการโนเบิล รีเวนต์และสิ้นสุดไตรมาสที่สองของปี 2557 บริษัทฯ มียอดขายที่ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ (ยังไม่รับรู้รายได้) คงเหลือจํานวน 15,300 ล้านบาท
นางวารุณี ลภิธนานุวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานการเงินและบัญชี บริษัท ศุภาลัย จํากัด (มหาชน) SPALI กล่าวว่า ในไตรมาส 2/57 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ 2,552.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 749.44 ล้านบาท คิดเป็น 42% แบ่งเป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์บ้านและทาวน์เฮาส์ 71% และที่เหลือ 29% เป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุด โดยสาเหตุหลักที่รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่องจากโครงการอาคารชุดที่ครบกําหนด โอนกรรมสิทธิ์เมื่อไตรมาส 4 ปี 2556 และการโอนกรรมสิทธิ์บ้านและทาวน์เฮาส์ที่เพิ่มขึ้นจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น
โดยมีกําไรสุทธิ 529.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 227.43 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 75% ซึ่งสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ เพิ่มขึ้นส่งผลให้กําไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน คือเท่ากับ 0.31 บาทต่อหุ้น
อย่างไรก็ตาม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมียอดสัญญาที่ลูกค้าซื้อบ้านและหรืออาคารชุดพักอาศัย แต่ยังไม่ถึงกําหนดโอนให้ลูกค้า 40,278 ล้านบาท โดยคาดว่า จะสามารถทยอยโอนให้ลูกค้าและสามารถรับรู้เป็นรายได้ในอีก 6 เดือนข้างหน้า จํานวน 12,247 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 28,031 ล้านบาทในอีก 3 ปีถัดไป
นางวีระพร ไชยสิริยะสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการและเลขานุการบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA กล่าวว่า ในไตรมาส 2/2557 บริษัทมีรายได้รับรู้รวม 1,003.79 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวม 133.57 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากการขายโครงการแนวราบและแนวสูง 898.14 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2556 กว่า 227.61 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น29.32%
ทั้งนี้ การที่รายได้รับรู้จากการขายที่สูงขึ้นเกิดจากการเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการโอนโครงการ เดอะนิช วังหิน, โครงการ เดอะคิทท์ติวานนท์ และ โครงการ เดอะคิทท์ นวมินทร์ ที่เหลือมาจากการให้เช่าและบริการ อพาร์ตเมนต์ 10.40 ล้านบาท จากการให้เช่าและบริหารพื้นที่ 59.15 ล้านบาท รายได้จากสนามกอล์ฟ 30.39 ล้านบาท จากการบริหารนิติบุคคล 5.63 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 14.73 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2 นี้ บริษัทมีต้นทุนจาการบริหารและการขายที่ 612.70ล้านบาท