“เอ มัสท์ กรุ๊ป” ผู้ประกอบการอสังหาฯ ย่านสมุทรปราการ ประกาศบุกอสังหาฯ ภาคอีสานเต็มสูบ หลังประสบความสำเร็จ โครงการแรก เลค นารา เล็งงัดแลนด์แบงก์กลางเมืองขอนแก่น 3 แปลง ผุดบ้าน คอมมูนิตีมอลล์ พร้อมลุยพัฒนาต่อเมืองอุดร อุบล และมหาสารคราม
น.ส.เสาวภาคย์ ถนอมศักดิ์กุล ประธานกรรมการบริหาร เอ มัสท์ กรุ๊ป เปิดเผยแผนการดำเนินงานหลังจากนี้ว่า บริษัทจะเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในภาคอีสานเป็นหลัก เนื่องจากมองว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพ โดยที่ผ่านมา ผู้ประกอบการจากส่วนกลางขยายการลงทุนไปยังเมืองหลักๆ ของภาคอีสาน ไม่ว่าจะเป็น ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี เป็นต้น อีกทั้งยังมีการขยายตัวของห้างสรรพสินค้า ร้านอาคาร และศูนย์จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เข้าไปยังพื้นที่เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป
สำหรับโครงการที่จะพัฒนาจะเน้นไปที่โครงการแนวราบเป็นหลัก เนื่องจากมีศักยภาพการเติบโตได้อีกมาก มีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง เพราะตรงต่อความต้องการของผู้บริโภคท้องถิ่นที่ยังคงนิยมบ้านแนวราบอยู่อาศัย ต่างจากโครงการคอนโดมิเนียมที่มีความต้องการจำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มในเมือง โดยเฉพาะ จ.ขอนแก่น เนื่องจากกำลังซื้อมีการเติบโตต่อเนื่อง ทั้งยังมีโซนการพัฒนาโครงการได้หลากหลาย คือ โซนมหาวิทยาลัย โซนศูนย์ราชการ โซนกลางเมือง และโซนทำเลใหม่ ย่านวงแหวนเชื่อมทางหลวงเอเชียไปยังระเบียงเศรษฐกิจ
“โครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับการตอบรับดีส่วนใหญ่เป็นโครงการแนวราบ เนื่องจากคนต่างจังหวัดยังไม่ชินต่อการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมที่พื้นที่จำกัด แม้ว่าที่ผ่านมา จะมีโครงการคอนโดมิเนียมมาเปิด และขายได้ดี แต่ความต้องการมีจำกัด โดยขอนแก่นมีซัปพลายรวมกว่า 5,000 ยูนิต คาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาในการดูดซับพอสมควร และจะต้องติดตามช่วงที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ว่ามีการทิ้งดาวน์หรือไม่ โดยคอนโดฯ บางส่วนจะเริ่มโอนช่วงปลายปีนี้ราว 900-1,000 ยูนิต” น.ส.เสาวภาคย์ กล่าว
ที่ผ่านมา บริษัทได้พัฒนาโครงการที่ขอนแก่นไปแล้ว 1 โครงการ คือ โครงการ เลค นารา และมีที่ดินอีก 3 แปลง ที่พร้อมสำหรับการพัฒนา โดยมี 1 แปลงที่อยู่ย่านโซนทำเลใหม่ อยู่ระหว่างการศึกษาพื้นที่โดยอาจจะมีการพัฒนาเป็นคอมมูนิตีมอลล์
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายการลงทุนไปยังจังหวัดอื่นๆ เช่น อุดรธานี อุบลราชธานี และมหาสารคาม ส่วนการพัฒนาโครงการที่กรุงเทพฯ เน้นโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก มองว่ามีความต้องการที่อยู่อาศัยเติบโตต่อเนื่อง อยู่ระหว่างการหาซื้อที่ดิน คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้ 1,200 ล้านบาท