ศุภาลัย ผลดำเนินงานดีเกินคาด 6 เดือน กวาดรายได้ 5,679.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% กำไร 1,270.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% อัตราทำกำไร 22% เผยตุน Backlog ในมือ 40,278 ล้านบาท รับรู้ปีนี้ 12,247 ล้านบาท
นางวารุณี ลภิธนานุวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานการเงินและบัญชี บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) (SPARI) ชี้แจงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยสำหรับงวดสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557 ดังนี้ งวดหกเดือนบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวมจากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ 5,679.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 48% ที่มีรายได้รวม 4,019.56 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์บ้านและทาวน์เฮาส์ 57% และที่เหลือ 43% เป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุด
บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 5,679.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์จำนวน 3,828.89 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายจากการขายและบริหาร 729.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีค่าใช้จ่ายจากการขายและบริหาร 601.68 ล้านบาท สาเหตุจากการเพิ่มขึ้นของยอดขาย ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายต่อรายได้อยู่ที่ 12% ปรับลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ระดับ 15% เนื่องจากความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนดีขึ้น
จากเหตุผลตามที่กล่าวข้างต้น ทำให้ผลประกอบการสำหรับงวดครึ่งปีแรกของปีนี้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1,271.10 ล้านบาท ขณะที่ในงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 773.67 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 64% อัตรากำไรสุทธิต่อรายได้รวมเท่ากับ 22% ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิต่อรายได้รวม 19%
อนึ่ง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มียอดสัญญาที่ลูกค้าซื้อบ้านและ/หรืออาคารชุดพักอาศัยแล้ว แต่ยังไม่ถึงกำหนดโอนให้ลูกค้า (Backlog) 40,278 ล้านบาท โดยคาดว่า จะสามารถทยอยโอนให้ลูกค้าและสามารถรับรู้เป็นรายได้ในอีก 6 เดือนข้างหน้า จำนวน 12,247 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ 28,031 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในอีก 3 ปีถัดไป
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยสำหรับงวดสามเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557 ดังนี้ 1. รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์เท่ากับ 2,552.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 749.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% แบ่งเป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์บ้านและทาวน์เฮาส์ 71% และที่เหลือ 29% เป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุด สาเหตุหลักที่รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่องจากโครงการอาคารชุดที่ครบกำหนดโอนกรรมสิทธิ์เมื่อไตรมาส 4 ปี 2556 และการโอนกรรมสิทธิ์บ้านและทาวน์เฮาส์ที่เพิ่มขึ้นจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น
2. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของบริษัทฯ และบริษัทย่อยคิดเป็น 14% เมื่อเทียบกับรายได้รวม ซึ่งลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ที่ 16% 3. กำไรสุทธิเท่ากับ 529.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 227.43 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นเพิ่มขึ้น 75% สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์เพิ่มตามที่กล่าวไว้ในข้อ 1 ส่งผลให้กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน คือ เท่ากับ 0.31 บาทต่อหุ้น
4. อัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net Gearing Ratio) อยู่ที่ระดับ 83% ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 เพิ่มขึ้นจากระดับ 51% ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 เนื่องมาจากบริษัทฯ และบริษัทย่อยได้มีการขยายตัวในการลงทุนในโครงการต่างๆเพิ่มขึ้น
