“กรุงไทย” มั่นใจทั้งปีปล่อยกู้ได้โตตามเป้า 7% มีโอกาสแตะ 10% หากภาวะเอื้อ ปลื้มครึ่งปีแรกขยายตัวได้ดี ไม่ห่วงเอ็นพีแอล เป็นไปตามภาวะโดยรวม พร้อมเพิ่มสัดส่วนรายย่อย-เอสเอ็มอีเป็น 60% จาก 53%
นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB)กล่าวว่า ผลงานของธนาคารในช่วงครึ่งปีแรกนั้นถือว่าเป็นที่น่าพอใจ โดยมีอัตราการเติบโตของสินเชื่อที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับทั้งระบบ ในขณะที่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยนัก โดยสินเชื่อมีอัตราการเติบโตที่ 5.4% จึงคาดว่าทั้งปีจะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 7%
“กรุงไทยถือเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีสินเชื่อในครึ่งปีแรกเติบโตได้สูง ขณะที่ครึ่งปีหลังที่สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น น่าจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ดีกว่า ดังนั้น ตัวเลขเป้าหมายที่ตั้งไว้ 7% ก็มีความเป็นไปได้สูง และหากปัจจัยต่างๆ เอื้อได้กว่าที่ควร 10% ก็คงเป็นกรอบบนได้”
ทั้งนี้ การปล่อยสินเชื่อของกรุงไทยไม่ได้เน้นไปที่เงินให้กู้จากภาครัฐ แต่ธนาคารจะมีความแข็งแกร่งในเครือข่ายผู้รับเหมางานจากการรับต่อจากภาครัฐมากกว่า ซึ่งหากมีโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานขนาดใหญ่ออกมา ก็ทำให้สินเชื่อขยายตัวได้มากขึ้น ขณะที่สภาพคล่องในระบบที่อาจจะลดลงบ้างน้้น ไม่ห่วงในเรื่องนี้ เนื่องจากโครงขนาดใหญ่จะเป็นการปล่อยกู้ร่วม และจะมีการทยอยเบิกจ่าย จึงไม่น่ามีปัญหาเรื่องขาดสภาพคล่อง
ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในช่วงที่ผ่านมาก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามสภาวะ โดยหลักมาจากกลุ่มลูกค้ารายย่อย แต่ก็เชื่อว่าภาพโดยรวมเศรษฐกิจดีขึ้นก็น่าจะทำให้สัดส่วนตรงนี้ลดลง ประกอบกับเรามีระบบดูแลความเสี่ยงที่มีคุณภาพ โดยปัจจุบันมียอดปฏิเสธสินเชื่อยู่ที่ 30%
“โครงการสาธาณูปโภคขนาดใหญ่ที่ทางการจะทำนั้น ไม่ใช่เพียงแค่การกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น จะเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพให้แก่ธุรกิจต่างๆ ในระยะยาวด้วย ซึ่งนอกจากนี้เรื่องนี้ในฐาน คสช.ความสามารถในการผลักดันนโยบายต่างๆ อย่างรวดเร็วแล้ว ก็ควรจะเน้นเพิ่มประสิทธิภาพในด้านคมนาคม การสื่อสาร พลังงาน และการศึกษาซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากไปพร้อมๆ กันด้วย”
นางกิตติยา โตธนะเกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ปัจจุบันโครงสร้างสินเชื่อของธนาคารแบ่งสินเชื่อภาครัฐ 10% สินเชื่อรายย่อย 33% สินเชื่อเอสเอ็มอี 20% และสินเชื่อรายใหญ่ 37% ซึ่งธนาคารพยายามที่จะเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อรายย่อย และเอสเอ็มอีเป็น 60% เพื่อให้เกิดความสมดุลของพอร์ต รวมถึงเพิ่มสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมด้วย
ด้านเอ็นพีแอลนั้น ธนาคารจะพยายามรักษาระดับให้ทรงตัวที่ 2.8% เท่ากับช่วงครึ่งปีแรก หรือหากลดลงได้ก็จะดี ซึ่งเท่าที่มาก็เป็นมีลูกค้าที่มีปัญหาเข้ามาหารือตรงนี้ก็มีขั้นตอนการปฏิบัติอยู่แล้ว
เปิดให้กู้สูงสุด 1 ล้าน ไม่ต้องมีหลักค้ำฯ
ล่าสุด นายเวทย์ นุชเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกสินเชื่อ กรุงไทย Super Easy เพื่อเสริมสภาพคล่อง เพิ่มความคล่องตัวในการใช้จ่ายตามความจำเป็น โดยให้กู้กับผู้มีรายได้ประจำตั้งแต่ 18,000 บาท ที่มีอายุงาน 1 ปีขึ้นไป หรือผู้ประกอบการร้านค้าย่อยที่มีรายได้ตั้งแต่เดือนละ 20,000 บาท ประกอบกิจการ 1 ปีขึ้นไป ให้วงเงินกู้ 5 เท่าของรายได้ สูงสุด 1 ล้านบาท โดยไม่ต้องมีหลักประกัน และไม่ต้องมีบัญชีเงินเดือนผ่านธนาคาร เลือกผ่อนชำระได้ภายใน 5 ปี
“ผู้กู้สามารถกู้ได้ง่าย ผ่อนสบาย และเช็กยอดหนี้ได้สะดวก โดยสามารถผ่อนชำระกี่ครั้งก็ได้ใน 1 เดือน ตามจำนวนเงินที่ธนาคารกำหนดให้ผ่อนชำระต่อเดือน ผ่านทุกช่องทางทั้งสาขา เครื่อง ATM และบริการ KTB netbank สามารถตรวจสอบยอดหนี้ได้ด้วยตนเองผ่านเครื่อง ATM ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยบัตร KTB Loan Convenience Card และสำหรับผู้ที่สมัครใช้บริการตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2558 ธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ย 18% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา หากสมัครหลังจากนั้น คิดอัตราดอกเบี้ย 20%”