xs
xsm
sm
md
lg

พฤกษาฯ โตสวนกระแสเล็งปรับเป้ารายได้ใหม่ ประกาศลงทุนเพิ่มลุยเปิด 70 โครงการ มูลค่า 7 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต
พฤกษาฯ เชื่อกำลังซื้อฟื้นประกาศปรับแผนลงทุนเปิด 70 โครงการใหม่ มูลค่า 7 หมื่นล้าน จากเดิมเปิดแค่ 60 โครงการ พร้อมเตรียมปรับเป้ายอดขาย-รายได้ช่วงไตรมาส 4/57 จากเดิมตั้งเป้ายอดขาย 4.5 หมื่นล้าน รายได้ 4.1-4.5 หมื่นล้านบาท เผยยอดขาย 6 เดือน 1.8 หมื่นล้านบาท ฟุ้ง Backlog ณ มิ.ย. กว่า 3.7 หมื่นล้านบาท รับรู้ปีนี้ 17,000 ล้านบาท

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับเพิ่มเป้าหมายการเปิดโครงการใหม่ปี 2557 จากเดิมที่ตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่เพียง 60 โครงการ มูลค่าประมาณ 60,000 ล้านบาท เป็น 70 โครงการ มูลค่า 70,000 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดย 10 โครงการเพิ่มเพิ่มขึ้นมาเป็นโครงการแนวราบทั้งหมด โดยในช่วงครึ่งปีแรกเปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 37 โครงการ ที่เหลืออีก 33 โครงการ จะทยอยเปิดในช่วงครึ่งปีหลัง ในจำนวนดังกล่าวจะเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะปรับเป้าหมายยอดขายและรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 4/2557 จากเดิมตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 45,000 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายรายได้ 41,000-45,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกมียอดขายแล้ว 18,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากคอนโดมิเนียม 3,500 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 4,500 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 9,100 ล้านบาท ส่วนยอดรับรู้รายได้มีจำนวน 15,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้

ณ สิ้นเดือนมิถุนายน บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) 37,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในปีนี้ประมาณ 17,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ในปี 2558 ประมาณ 16,000 ล้านบาท และอีก 4,000 ล้านบาท รับรู้ในปี 2559 ทั้งนี้ ยอด Backlog 37,000 ล้านบาท แบ่งเป็น Backlog ของคอนโดฯ จำนวน 9,721 ล้านบาท โดยในเดือนกรกฎาคม และสิงหาคมนี้ บริษัทฯ จะเริ่มส่งมอบ และโอนกรรมสิทธิ์ในโครงการ พลัม คอนโด จำนวน 2 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้รวม 620 ล้านบาท แบ่งเป็นพลัม คอนโด บางแค มูลค่า 385 ล้านบาท และพลัมคอนโด ลาดพร้าว 101 มูลค่า 235 ล้านบาท

“บริษัทมั่นใจว่าลูกค้าของ พฤกษาฯ จะโอนกรรมสิทธิ์อย่างแน่นอน เนื่องจากขณะนี้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับคืนมา และปัจจุบันราคาที่ดินมีการปรับเพิ่มสูงมากขึ้นเป็นเท่าตัว ส่งผลให้คอนโดมิเนียมมีมูลค่าสูงเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ประกอบกับกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่ซื้อเพื่อต้องการอยู่อาศัย” นายประเสริฐ กล่าว

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลช่วงครึ่งปีแรก ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง และเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งคาดว่าทั้งปีจะมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 2.7 แสนล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่าน ที่มีมูลค่ากว่า 3.5 แสนล้านบาท โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากคือ คอนโดมิเนียม เพราะผู้บริโภคไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ และชะลอการตัดสินใจซื้อ ส่วนกลุ่มบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ ไม่ได้รับผลกระทบ ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง

ทั้งนี้ คอนโดมิเนียมคิดเป็นสัดส่วน 45-50% ของตลาดรวม แม้ว่าช่วงครึ่งปีแรกตลาดจะชะลอตัว แต่เชื่อว่าหลังจากที่สถานการณ์การเมืองคลี่คลาย ความเชื่อมั่นผู้บริโภค และนักลงทุนกลับมา ตลาดจะเริ่มฟื้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยขณะนี้เริ่มเห็นการทยอยเปิดโครงการมากขึ้น คาดว่ามูลค่าตลาดคอนโดมิเนียมจะลดลง 30% อยู่ที่ 1.4 แสนล้านบาท จากปีที่ผ่านมา ที่อยู่ที่ 1.9 แสนล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น