ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ แจงดัชนีความเชื่อมั่นบริษัทอสังหาฯ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไตรมาส 2 ขยับขึ้นแตะ 56.0 สะท้อนความเชื่อมั่น บมจ.อสังหาฯ ต่อภาวะตลาด-เศรษฐกิจเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/57 ด้านอสังหาฯ นอกตลาด ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 49.7 หรือเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว ซึ่งมีค่าดัชนี 41.9 เล็กน้อย ระบุดัชนีความคาดหวัง 6 เดือนข้างหน้าปรับตัวมีค่าเท่ากับ 67.3
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้นำข้อมูลจากผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ประจำไตรมาส 2 ปี 2557 ซึ่งได้สำรวจจากการตอบแบบสอบถามของผู้ประกอบการอสังหาฯ ทั้งที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ และไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 166 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 30 บริษัท และบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 136 บริษัท โดยในการคำนวณดัชนีรวมจะให้น้ำหนักบริษัทจดทะเบียนและบริษัทไม่จดทะเบียนในสัดส่วน 50:50 เท่ากัน
นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวถึงผลการสำรวจว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยมีค่ากลางของดัชนีเท่ากับ 50 ดังนั้น หากค่าดัชนีสูงกว่าค่ากลาง จะสะท้อนถึงนัยสำคัญว่าผู้ประกอบการมองเห็นทิศทางและแนวโน้มตลาดว่ามีภาวะที่ดี และหากดัชนีมีค่าสูงกว่าเดิม จะสะท้อนว่าผู้ประกอบการเห็นว่าเป็นภาวะที่ดีขึ้นจากเดิม ในทางตรงข้าม หากค่าดัชนีต่ำกว่าค่ากลาง มีนัยว่าผู้ประกอบการเห็นว่าเป็นภาวะที่ไม่ดี และหากดัชนีมีค่าต่ำกว่าเดิม มีนัยว่าผู้ประกอบการเห็นว่าเป็นภาวะที่แย่ลงจากเดิม
ทั้งนี้ ผลจากการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ประจำไตรมาส 2 ปี 2557 พบว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันมีค่าเท่ากับ 56.0 ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา โดยช่วงไตรมาสแรกของปีดัชนีมีค่าเท่ากับ 43.7 และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 2/2556) ซึ่งดัชนีมีค่าเท่ากับ 54.7
เมื่อแยกผลสำรวจของประเภทผู้ประกอบการออกจากกัน พบว่า ผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันเท่ากับ 62.3 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว ซึ่งมีค่าดัชนี 45.6 ขณะที่ผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการที่ไม่ใช่บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันเท่ากับ 49.7 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว ซึ่งมีค่าดัชนี 41.9
สำหรับค่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันอยู่ที่ 56.0 นั้น มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 5 ไตรมาส หรือตั้งแต่ไตรมาสแรก ปี 2556 โดยผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นในทุกด้าน ทั้งผลประกอบการ ยอดขาย การลงทุน การจ้างงาน ต้นทุนประกอบการ และการเปิดโครงการใหม่และ/หรือเฟสใหม่
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลให้ค่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการสูงขึ้น เนื่องมาจากการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนี้ดำเนินการในเดือนสุดท้ายของไตรมาส คือ เดือนมิถุนายน ดังนั้น ผลสำรวจจึงสะท้อนความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยซึ่งเพิ่มขึ้นภายหลังจากการรัฐประหาร โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่เห็นว่าสถานการณ์การเมืองได้กลับคืนสู่ความสงบ และมีการดำเนินการทางเศรษฐกิจ หรือการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมในหลายด้าน
ดังนั้น จึงส่งผลให้ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นมาก โดยค่าดัชนีดังกล่าวเกิดกับทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ และผู้ประกอบการนอกตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายกลางและรายย่อย ทั้งนี้ แม้ผู้ประกอบการนอกตลาดจะมีระดับความเชื่อมั่นต่ำกว่าผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทจดทะเบียน แต่ก็ถือว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการนอกตลาดหลักทรัพย์สูงที่สุดในรอบ 4 ไตรมาส
นายสัมมา กล่าวว่า สำหรับดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้าประจำไตรมาส 2/2557 มีค่าเท่ากับ 67.3 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว ซึ่งมีค่าเท่ากับ 58.2 แต่ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสเดียวกันของปี 2556 ซึ่งดัชนีมีค่าเท่ากับ 67.4 โดยในส่วนของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้า เท่ากับ 71.6 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้วซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 61.9 ส่วนบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีค่าดัชนีความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้า มีค่าดัชนีเท่ากับ 63.0 ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้วซึ่งมีค่าดัชนีเท่ากับ 54.5