xs
xsm
sm
md
lg

นักลงทุนซื้อTSRได้เฮ!เทรดวันแรกเหนือจอง1.85บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


" เธียรสุรัตน์ " เทรดวันแรกหุ้นปิด 5.35 บาท เหนือราคาจอง 1.85 บาท เพิ่มขึ้น 52.86% จากราคาIPOที่หุ้นละ 3.50 บาท ที่ปรึกษาการเงินยิ้ม ยันเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีอีกตัวหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์ ขณะผู้บริหารปลื้มหลังเข้าจดทะเบียนในตลาด ยันเดินหน้าบริหานงานเพื่้อให้เติบโตอย่างมั่นคง ยังยืน วางเป้าผลงานเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 10%

วานนี้(19 มิ.ย.57)ราคาหุ้น บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSR เปิดตลาดซื้อขายวันแรก ด้วยราคาเปิดสูงถึง 7.80 บาท เพิ่มขึ้น 122.86 % จากราคาไอพีโอ 3.50 บาท ระหว่างวันราคาหุ้นปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 8.05 บาท ต่ำสุดที่ 5.05บาท และมาปิดที่ราคา 5.35 บาท เพิ่มขึ้น 1.85 บาท คิดเป็น 52.86% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1,872.12 ล้านบาท

นางสาวสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น TSR กล่าวว่า นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจสำหรับ บล.ธนชาต ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน ที่มีโอกาสเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) และนำหลักทรัพย์ TSR ซึ่งเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีมากที่สุดตัวหนึ่ง เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากเป้าหมายและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจนของคณะผู้บริหาร ประกอบกับความเข้มแข็งทางการเงินที่มั่นคง จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้ TSR สามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งในตลาดผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องกรองน้ำดื่มในครัวเรือนที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศได้

"จนถึงวันนี้ บล.ธนชาต ยังยืนยันและตอกย้ำว่า TSR นับเป็นหนึ่งในหุ้นน้องใหม่ที่น่าจับตามองและน่าลงทุนในระยะยาว และเชื่อมั่นว่า TSR จะสามารถสร้างสีสัน ให้บรรยากาศการลงทุนในหุ้นหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค/ ของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน ให้คึกคักมากขึ้น จากปัจจัยพื้นฐานที่น่าลงทุน มีความมั่นคง ที่มีศักยภาพการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต"

ขณะที่นายวีรวัฒน์ แจ้งอยู่ ประธานกรรมการบริหาร TSR กล่าวว่าการเสนอขายหุ้นไอพีโอราคา 3.50 บาทต่อหุ้น ในครั้งนี้ดีเกินคาด นับเป็นความภาคภูมิใจสำหรับคณะผู้บริหารและพนักงานที่วันนี้ หุ้น TSR สามารถก้าวเข้ามาเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค/ ของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน และถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของบริษัทให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น รองรับการแข่งขันทางธุรกิจ พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งด้านการผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องกรองน้ำดื่มภายในครัวเรือน แบบขายตรงชั้นเดียว (Single Level Direct Sale) ของประเทศ

พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมเดินหน้าลุยธุรกิจตามแผนที่วางไว้ ทั้งการลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่แห่งที่ 3 บนพื้นที่ 9 ไร่ ในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตถึง 2 เท่า จากกำลังการผลิตปัจจุบันที่ 15,000 เครื่องต่อเดือน โดยจะแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 เฟส คาดเฟสแรกจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปีนี้ และเฟสสุดท้ายจะแล้วเสร็จประมาณต้นปี 2559 และบริษัทวางเป้าหมายจะเติบโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี


กำลังโหลดความคิดเห็น