“พีดีเฮ้าส์” เดินหน้ารุกตลาดรับสร้างบ้านทั่วประเทศ ท่ามกลางปัญหาการเมืองฉุดเศรษฐกิจครึ่งปีแรกชะลอ ยอมรับตลาดรับสร้างบ้านได้รับผลกระทบหนัก แต่เชื่อยังมีกำลังซื้อ คาดยอดขายกลุ่มพีดีเฮ้าส์ครึ่งปีแรก 700 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปี 2,000 ล้านบาท ลุ้นยอดขายอีก 1 เดือน หากไม่กระเตื้องเล็งปรับลดเป้ายอดขายปี 57 ลงเล็กน้อย แต่มั่นใจขยายสาขาครบ 10 สาขาตามแผนฯ
นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของและผู้บริหารสิทธิ์แฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองที่มีการชุมนุมประท้วงมานานกว่าครึ่งปี กระทั่งเกิดการรัฐประหารขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจ และการค้าของประเทศในปีนี้ชะลอตัว โดยล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกปี 2557 ติดลบร้อยละ 0.6% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว และปรับตัวลดลงจากไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 ร้อยละ 2.1%
ในส่วนของภาคธุรกิจรับสร้างบ้านเองก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงผลกระทบดังกล่าวได้เช่นกัน โดยประเมินได้จากกำลังซื้อผู้บริโภคที่ชะลอตัวในช่วงกว่า 6 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจนี้ต้องเร่งปรับตัว ซึ่งมีทั้งการปรับตัวแบบตั้งรับสถานการณ์ และรุกสวนกระแสตลาดที่ชะลอตัว แตกต่างกันไปตามนโยบายของแต่ละกิจการว่าจะงัดกลยุทธ์ใดออกมาใช้ในการแข่งขัน เพื่อฝ่าสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปีนี้
แม้ว่าภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านจะชะลอตัวในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังมีกำลังซื้อของผู้บริโภคส่วนหนึ่งที่ไม่ได้สนใจต่อสถานการณ์ทางการเมือง และเศรษฐกิจซึ่งถือเป็นกำลังซื้อที่แท้จริง ไม่มีการเก็งกำไร และที่สำคัญเป็นการใช้ “เงินออม หรือเงินสด” สำหรับการลงทุนสร้างบ้านหลังใหม่ มากกว่าจะขอ “กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน”
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าผู้มีกำลังซื้อของตลาดรับสร้างบ้านนั้น แตกต่างจากตลาดบ้านจัดสรร และอาคารชุดอย่างเห็นได้ชัดเจน เพราะเมื่อใดที่เศรษฐกิจมีปัญหากำลังซื้อก็จะหดตัวทันที ดังนั้น แนวทางการปรับตัวของบริษัทฯ จึงเลือกที่จะรุกขยายตลาด แทนการตั้งรับเช่นคู่แข่งรายอื่นๆ ซึ่งจะสอดคล้องกับแผน 5 ปีของบริษัทฯ ที่วางไว้จะขยายสาขาออกไปทั่วประเทศให้ครบ 50 สาขาในเร็วๆ นี้
จากแนวทางการปรับตัวที่เน้นเจาะกลุ่มกำลังซื้อพื้นที่ใหม่ๆ ด้วยการขยายสาขาในต่างจังหวัด ส่งผลให้ในช่วง 5 เดือนแรก บริษัทฯ สามารถทำยอดขายบ้านจากสาขาทั่วประเทศได้กว่า 500 ล้านบาท และคาดว่าครึ่งปีแรกนี้จะมียอดขาย 700 ล้านบาท ซี่งต่ำกว่าเป้าหมายทั้งปีที่วางเอาไว้ 2,000 ล้านบาท เมื่อประเมินจากทิศทางเศรษฐกิจ และสถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาในช่วงครึ่งปีแร กและแนวโน้มครึ่งปีหลังแล้ว บริษัทฯ คงจะต้องทบทวนและปรับเป้ายอดขายในปีนี้ลงบางส่วน แต่คงจะไม่ปรับลดลงมากนัก แต่ทั้งนี้จะต้องรอดูยอดขายบ้านอีกหนึ่งเดือนว่าจะเป็นไปในทิศทางใด
นายพิศาล กล่าวอีกว่า ในส่วนของการขยายสาขาใหม่ในปี 2557 นี้ บริษัทฯ ยังคงเป้าหมาย 10 สาขาตามแผนฯ ที่วางไว้ ซึ่งปัจจุบันเปิดดำเนินการแล้ว 2 แห่งคือ สาขาจังหวัดชุมพร และสุพรรณบุรี และอยู่ในระหว่างฝึกอบรมบุคลากร หรือเตรียมความพร้อมอีก 5 สาขา ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด ลำปาง มุกดาหาร กาฬสินธุ์ และบุรีรัมย์ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างพิจารณาว่าสาขาใดจะลงทุนเอง และสาขาใดจะให้สิทธิแก่นักลงทุนที่สนใจระบบแฟรนไชส์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ คาดว่าจะสามารถขยายสาขาได้ครบตามแผนฯ ที่วางไว้
“ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องของความโชคดี แต่เป็นเพราะบริษัทฯ มีการปรับตัว และเลือกที่จะโฟกัสธุรกิจเป็นสำคัญ เสพข่าวสาร และปัญหาทางการเมืองน้อยลง ด้วยเพราะต้องการสมาธิมากเป็นพิเศษ เพื่อจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสกลับคืนมา สำคัญที่สุด เป้าหมายหลักที่บริษัทฯ ต้องการจะเห็นคือ ธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นที่ยอมรับ และขยายออกไปในวงกว้างทั่วประเทศนั้น ณ เวลานี้ก้าวมาถึงจุดที่เรียกได้ว่า ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว ซึ่งในฐานะหนึ่งในฟันเฟืองหลักที่ช่วยขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าว ก็รู้สึกภาคภูมิใจด้วยเช่นกัน” นายพิศาลกล่าว