ธปท. ส่งสัญญาณหั่นเป้าจีดีพีลงต่ำกว่า 2.7% มั่นใจทั้งปีไม่ถึงขั้นติดลบ เพราะพื้นฐาน ศก. ยังดี โดยมองว่าการส่งออกจะกลับมาเป็นตัวขับเคลื่อน ย้ำในระยะสั้น ศก.ไทยยังไม่ถึงขั้นวิกฤต แต่ในระยะกลาง ต้องดูการลงทุนใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ ธปท.จะพิจารณาปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 57 คาดว่าจะลดลงจากเดิมที่ประเมินไว้ว่าจะเติบโตราว 2.7% แต่คงยังไม่ถึงกับติดลบ โดยมองว่าการส่งออกจะเป็นตัวหลักที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เนื่องจากการบริโภค และการลงทุนอาจจะยังไม่ดีนัก แต่ก็อาจจะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของการส่งออกในปีนี้ลงจากที่เคยประเมินไว้ในระดับ 4.5% เนื่องจากตัวเลขในไตรมาสแรกออกมาต่ำกว่าคาด
“คงจะมีการปรับประมาณการ ต้องดูตัวเลขเศรษฐกิจจริงของไตรมาส 1/57 ที่จะออกมาในเดือน พ.ค. และในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือน มิ.ย คงจะขยับลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ แต่ยังไม่ถึงกับติดลบ”
อย่างไรก็ตาม พื้นฐานเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ยังแข็งแกร่งพอสมควร หากการเมืองคลี่คลายลงได้เร็วก็เชื่อว่าปีหน้าเศรษฐกิจก็น่าจะเติบโตมากขึ้นกว่าปีนี้ที่มีการเติบโตค่อนข้างต่ำ โดยในระยะสั้นเศรษฐกิจไทยคงยังไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองมากนัก แต่ในระยะกลางอาจได้รับผลกระทบ เพราะไม่มีการลงทุนใหม่ๆ เกิดขึ้น แม้จะมีคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ชุดใหม่มาทำหน้าที่อนุมัติส่งเสริมการลงทุนแล้ว แต่ในแง่ปฏิบัติจริงก็ยังต้องใช้เวลา ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศก็ยังชะลอการลงทุน ดังนั้น หากปัญหาการเมืองหมดไปในช่วงกลางปีนี้ได้ก็จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็ว
ส่วนความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทคงต้องดูที่ความสมดุลของทั้งผู้นำเข้า และผู้ส่งออก ซึ่งในช่วงที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยสถานภาพนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีบางส่วนเมื่อวานนี้ ค่าเงินบาทก็ไม่ได้ผันผวนมากนัก เพราะตลาดการเงิยยังเชื่อมั่นเศรษฐกิจมหภาคของไทย
ทั้งนี้ ในระยะสั้นเศรษฐกิจไทยยังไม่ถึงขั้นวิกฤต แม้เกิดปัญหาบ้าง โดยสถานการณ์ปัจจุบัน กนง.มีนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2.00% ขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 2.5% ขณะที่สภาพคล่องในระบบการเงินก็มีอยู่สูง ซึ่งอัตราดอกเบี้ยไม่ได้เป็นปัญหาต่อเอกชน