โปรกเกอร์คาดช่วงบ่ายดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทรงตัวในกรอบแคบ รอทิศทางการเมืองสัปดาห์หน้า รวมถึงตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจสหรัฐ
ฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทยคาดหุ้นไทยช่วงบ่ายดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะทรงตัวก่อนเข้าสู่วันหยุดยาวเพื่อรอดูปัจจัยในสัปดาห์หน้า พร้อมให้กรอบ แนวรับ 1,410 จุด และแนวต้าน 1,425-1,430 จุด ทั้งนี้ปัจจัยต่างประเทศไม่เป็นบวกนักต่อภาพการลงทุน ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลบวกต่อจิตวิทยาการลงทุนคือปัจจัยในประเทศทั้งการประกาศผลประกอบการ ไตรมาส 1/57 และการเมืองที่มีโอกาสจบด้วยการเจรจามากขึ้น จะช่วยจำกัดdownside ช่วงสั้นของตลาด โดยมีปัจจัยติดตามคือ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯคืนนี้ และรูปแบบการชุมนุมของกลุ่มนปช.และกปสส.ในวันที่ 5 พ.ค. อย่างไรก็ตามปัจจัยการเมืองจะกลับมาเป็นปัจจัยที่น่าจะทำให้ตลาดแกว่งผันผวนสูงขึ้นในสัปดาห์หน้า
กลยุทธ์การลงทุน แนะ เลือกเก็งกำไรรายหลักทรัพย์ โดยใช้ 1,400 เป็น Stop และมีdownside ของการปรับฐานที่ 1340-1360 จุด
สอดคล้องกับฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ เคลื่อนไหวในทิศทาง Sideway to Sideway up ในกรอบ 1,410-1,420 แบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเข้าสู่ช่วงคาบเกี่ยวของวันหยุดยาว และปัจจัยการเมืองจะกลับมามีน้ำหนักมากขึ้นในสัปดาห์หน้า สำหรับการลงทุนในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนพฤษภาคม จากการชุมนุมทั้งของกลุ่ม นปช. และ กปปส. รวมทั้งการตัดสินขององค์อิสระ ทั้งศาลรัฐธรรมนูญ ต่อกรณีโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี และการชี้มูลความผิดโครงการจำนำข้าวของ ป.ป.ช.
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ให้น้ำหนักมากสุด คือ การเลือกตั้งครั้งใหม่ โดยคาดว่าจะมีการนำเสนอ พ.ร.ฎ.การเลือกตั้งให้ครม. พิจารณา ในวันที่ 6-7 พ.ค. และหากสามารถเข้าสู่การเลือกตั้งได้ในวันที่ 20 ก.ค. คาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกให้ตลาดหุ้นไทยสามารถเคลื่อนไหวฉีกตัวออกจากตลาดหุ้นทั่วโลกที่อาจได้รับผลกระทบเชิงลบจากการปรับพอร์ตลงทุนดังนั้น แนะนำให้นักลงทุน “เข้าเก็งกำไรแบบจำกัดวงเงิน” หุ้นที่มีประเด็นเชิงบวกเฉพาะตัว, ปัจจัยด้านผลการดำเนินงานเป็นสำคัญ และกลุ่มเชื่อมโยงที่จะได้ประโยชน์หากสามารถจัดการเลือกตั้งได้ในเดือนกรกฎาคม
สำหรับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเช้าวันที่ 2 พ.ค.57 ดัชนีปรับขึ้นทันทีที่เปิดตลาด และสามารถเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆตลอดการซื้อขายภาคเช้า หลังไร้ปัจจัยใหม่ๆเข้ามากดดัน ขณะที่นักลงทุนยังคงต้องจับตาสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอน ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดภาคเช้าที่ 1,420.49 จุด เพิ่มขึ้น 5.55 จุด หรือ 0.39% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 14,735.49 ล้านบาท
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
ICHI มูลค่าการซื้อขาย 935.01 ล้านบาท ปิดที่ 19.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
BGH มูลค่าการซื้อขาย 724.62 ล้านบาท ปิดที่ 15.60 บาท ลดลง 0.80 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 714.86 ล้านบาท ปิดที่ 6.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 678.07 ล้านบาท ปิดที่ 30.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 674.73 ล้านบาท ปิดที่ 192.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท