ASTV ผู้จัดการรายวัน – หุ้นไทยปิดบวก 8 จุด รับสถานการณ์การเมืองผ่อนคลายความตรึงเครียด อีกทั้งกนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ย ไม่กระทบตลาด สร้างแรงดึงดูดเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าซื้อสุทธิอีก 1.6 พันล้านบาท โบรกฯประเมินมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ แต่ไม่มาก หากเม็ดเงินไหลเข้ายุติอาจเห็นแรงเทขายทำกำไร
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (23เม.ย.) ยังเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยปิดที่ระดับ 1,423.39 จุด เพิ่มขึ้น 8.34 จุด หรือ 0.59%มูลค่าการซื้อขาย 36,608.17 ล้านบาท โดยรวมดัชนีปรับตัวขึ้นตามแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้ปัจจัยการเมืองที่ยังไม่ชัดเจนกดดันตลาด ระหว่างวันแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,424.99 จุด และต่ำสุดที่ 1,417.83 จุด
ขณะที่การซื้อสุทธิแยกตามประเภทนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,655.98 ล้านบาท ตามมาด้วยนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 402.86 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 1,567.58 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 491.26 ล้านบาท
นักวิเคระห์ บล.คันทรี่ สรุปความเคลื่อนไหว ดัชนีหุ้นไทยว่า ดัชนีสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จาก Fund Flow ที่ไหลเข้า และปัญหาการเมืองที่ลดความร้อนแรง หลังศาลรัฐธรรมนูญยืดกำหนดเวลาให้นายกรัฐมนตรีเข้าชี้แจงกรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ออกไปเป็น 2 พ.ค.และจะเริ่มไต่สวนในวันที่ 6 พ.ค. ขณะเดียวกันได้รับแรงสนับสนุนจากผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ที่คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2% เพราะธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)มองว่าเป็นระดับที่ยังคงกระตุ้นเศรษฐกิจได้
ส่วนทิศทางวันนี้(24เม.ย) ประเมินว่า ดัชนียังน่าจะแกว่งตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายวันนี้ที่เริ่มหนาแน่นขึ้นในช่วงบ่าย ทำให้ภาพรวม Fund Flowจะยังคงไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องและน่าจะเพิ่มน้ำหนักเข้ามามากขึ้น อย่างไรก็ตามดัชนีจะปรับขึ้นไม่มากนักหลังจากสถานการณ์ทางการเมืองยังคงไม่ชัดเจนจากการหารือเรื่องวันเลือกตั้งใหม่ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป รวมถึงการรับคำร้องขอขยายเวลาส่งคำชี้แจงแก่ศาลรัฐธรรมนูญของนายกฯกรณีการโยกย้ายข้าราชการที่ไม่เป็นธรรม
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามคาด เม้ยังไม่ผ่านแนว 1,425 จุดไปได้ เป็นการรับโมเมนตัมบวกจากแรงซื้อของต่างชาติที่ยังไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา เป็น Positive Sentiment แต่ยังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองที่ยังไม่ชัดเจน
ทั้งนี้ แนวโน้มการลงทุนในวันนี้ หากตลาดหสหรัฐฯยังปรับตัวขึ้น และแรงซื้อต่างชาติยังมีอยู่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อไปได้ แต่คงจะขึ้นไม่แรง จะเป็นลักษณะค่อยๆ ขึ้นไป แต่ถ้าหักมุมตลาดสหรัฐฯปรับตัวลง และแรงซื้อต่างชาติหาย ตลาดฯก็จะเจอแรง take profit ทันที
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (23เม.ย.) ยังเคลื่อนไหวในแดนบวก โดยปิดที่ระดับ 1,423.39 จุด เพิ่มขึ้น 8.34 จุด หรือ 0.59%มูลค่าการซื้อขาย 36,608.17 ล้านบาท โดยรวมดัชนีปรับตัวขึ้นตามแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้ปัจจัยการเมืองที่ยังไม่ชัดเจนกดดันตลาด ระหว่างวันแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,424.99 จุด และต่ำสุดที่ 1,417.83 จุด
ขณะที่การซื้อสุทธิแยกตามประเภทนักลงทุน พบว่า นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,655.98 ล้านบาท ตามมาด้วยนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 402.86 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 1,567.58 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 491.26 ล้านบาท
นักวิเคระห์ บล.คันทรี่ สรุปความเคลื่อนไหว ดัชนีหุ้นไทยว่า ดัชนีสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จาก Fund Flow ที่ไหลเข้า และปัญหาการเมืองที่ลดความร้อนแรง หลังศาลรัฐธรรมนูญยืดกำหนดเวลาให้นายกรัฐมนตรีเข้าชี้แจงกรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ออกไปเป็น 2 พ.ค.และจะเริ่มไต่สวนในวันที่ 6 พ.ค. ขณะเดียวกันได้รับแรงสนับสนุนจากผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ที่คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2% เพราะธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)มองว่าเป็นระดับที่ยังคงกระตุ้นเศรษฐกิจได้
ส่วนทิศทางวันนี้(24เม.ย) ประเมินว่า ดัชนียังน่าจะแกว่งตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายวันนี้ที่เริ่มหนาแน่นขึ้นในช่วงบ่าย ทำให้ภาพรวม Fund Flowจะยังคงไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องและน่าจะเพิ่มน้ำหนักเข้ามามากขึ้น อย่างไรก็ตามดัชนีจะปรับขึ้นไม่มากนักหลังจากสถานการณ์ทางการเมืองยังคงไม่ชัดเจนจากการหารือเรื่องวันเลือกตั้งใหม่ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป รวมถึงการรับคำร้องขอขยายเวลาส่งคำชี้แจงแก่ศาลรัฐธรรมนูญของนายกฯกรณีการโยกย้ายข้าราชการที่ไม่เป็นธรรม
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามคาด เม้ยังไม่ผ่านแนว 1,425 จุดไปได้ เป็นการรับโมเมนตัมบวกจากแรงซื้อของต่างชาติที่ยังไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา เป็น Positive Sentiment แต่ยังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองที่ยังไม่ชัดเจน
ทั้งนี้ แนวโน้มการลงทุนในวันนี้ หากตลาดหสหรัฐฯยังปรับตัวขึ้น และแรงซื้อต่างชาติยังมีอยู่จะทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อไปได้ แต่คงจะขึ้นไม่แรง จะเป็นลักษณะค่อยๆ ขึ้นไป แต่ถ้าหักมุมตลาดสหรัฐฯปรับตัวลง และแรงซื้อต่างชาติหาย ตลาดฯก็จะเจอแรง take profit ทันที
