“อีสเทอร์นสตาร์” มั่นใจปี 57ล้างขาดทุนสะสม 108 ล้านบาท เผยแบ็กล็อกรอรับรู้รายได้ในมือกว่า 3,800 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ 1,600 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายทั้งปี 1,800ล้านบาท แจงแผนปี 57เปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าชอปที่ดินรอพัฒนาโครงการในอนาคต หลังบอร์ดบริหารอนุมัติงบซื้อที่ดิน 3,000 ล้านบาท คาดพรีเชล AMBER 27 เม.ย.ยอดจองไม่ต่ำกว่า 40%
นายรัตนชัย ผาตินาวิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่เปิดขายในมือ 12โครงการ โดยเป็นโครงการต่างจังหวัดกว่า 50% ส่วนที่เหลือเป็นโครงการในพื้นที่ กทม. ซึ่งโครงการทั้งหมดดังกล่าวโดยมากมียูนิตเหลือขายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้ ณ ปัจจุบันบริษัทมีสต๊อกยอดขายที่อยู่อาศัยรอรับรู้รายได้ในมือแล้ว 3,700-3,800 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 1,600 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีถัดไป
จากสต๊อกยอดขายรอรับรู้รายได้ในมือที่คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้กว่า 1,600 ล้านบาท จะส่งผลให้ในปีนี้บริษัทจะสมารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ขณะนี้กว่า 108 ล้านบาทได้ทั้งหมด โดยเม็ดเงินที่จะนำมาล้างหนี้ขาดทุนสะสมนั้นจะมาจากผลการดำเนินงานทั้งหมด ส่วนกรีณีที่เมื่อสามารถล้างหนี้ขาดทุนสะสมได้แล้วจะมีการปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้เนื่องจากต้องรอบอร์บริหารเป็นผู้ชี้ขาดอีกครั้ง
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดรับรู้รายได้ที่ 1,550 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 158 ล้านบาท ขณะที่หนี้สินต่อทุนของบริษัทในปัจจุบันปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 0.1 เท่า ทำให้คณะกรรมการบริหารบริษัทลดความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการขยายการลงทุน โดยล่าสุด บอร์บริหารได้อนุมัติงบซื้อที่ดินรอการพัฒนากว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าในทุกๆ ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีการอนุมัติงบในการซื้อที่ดินต่อปีอยู่ที่ 1,000-1,500 ล้านบาทเท่านั้น
“การอนุมัติงบซื้อที่ดินเพิ่มกว่าเท่าตัวของบอร์ดบริหารในปีนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการขยายการลงทุนของบริษัทในอนาคต 1-2 ปีนี้ว่าจะมีมากขึ้นกว่าในอดีตที่ปผ่านมา โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินแปลงใหม่เข้ามารอการพัฒนาจำนวน 2 แปลง ซึ่งในแปลงที่เจรจาอยู่ล่าสุดนี้ บริษัทหมายมั่นว่าจะนำมาพัฒนาโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวเป็นโครงการที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งหากสามารถตกลงซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวได้ โครงการที่จะเปิดใหม่อีก 1 โครงการ จะเป็นโครงการขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท เมื่อนับรวมกับโครงการ AMBER วงศ์สว่าง ที่จะเปิดพรีเชลในวันที่ 27 เม.ย.นี้ จะทำให้ปีนี้บริษัทจะมีมูลค่าโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดใหม่รวมกว่า 7,000 ล้านบาท”
นายรัตนชัย กล่าวว่า สำหรับปี 57 นี้บิษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการเป็นอย่างน้อย โดยจะเป็นโครงการอาคารสูงกว่า 80% ซึ่งล่าสุด บริษัทได้เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมไฮไลต์ “MABER” ติดสถานีรถไฟฟ้า MRT วงศ์สว่าง มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวมีพื้นที่พัฒนาโครงการรวม 2 ไร่ ซึ่งพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมสูง 37 ชั้น จำนวน 563 ยูนิต ประกอบด้วยห้องชุด 1 ห้องนอน ขนาด 35-57 ตารางเมตร 421 ยูนิต และห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55-76 ตารางเมตร 142 ยูนิต ระดับราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท หรือมีราคาขายเฉลี่ย 80,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งคาดว่าในการเปิดพรีเชลวันที่ 27 เม.ย.นี้ จะสามารถสร้างยอดจองซื้อได้ไม่ต่ำกว่า 40% หรือกว่า 200 ยูนิต ส่วนอีกโครงการที่ 2 อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินอยู่คาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ทั้งนี้ ในปี 57 นบริษัทตั้งเป้ามียอดขายรวม 1,800 ล้านบาท ซึ่งมาจากการขายห้องชุดใน 6 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ AMBER วงศ์สว่าง จำนวน 563 ยูนิต โครงการ Star View โครงการ The Breeze โครงการ Vantage โครงการ Nara 9 และโครงการ The Star Estate@Pattanakarn