xs
xsm
sm
md
lg

แท้ง พ.ร.บ. 2.2 ล้านล. คนซื้อบ้านเฮ? ระบุราคาที่ดิน-ที่อยู่อาศัยนิ่งอีก 2 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไม่รู้ว่าเป็นข่าวร้ายในข่าวดี หรือว่าเป็นข่าวดีในข่าวร้าย ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่า ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ…. ... วงเงินไม่เกิน 2 ล้านล้านบาท ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 169 และ 170 และกระบวนการตรา พ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อโครงการเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐที่มีแผนจะนำงบ 2.2 ล้านล้านบาท ไปลงทุนพัฒนาโครงการ รถไฟฟ้า โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน การตัดถนนในเส้นทางใหม่ รวมถึงการขยายถนนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศหยุดชะงักไป

ล่าสุด “ปราโมทย์ ยามาลี” รองอธิบดีกรมที่ดิน ได้กล่าวในการเปิดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่12-15 มี.ค.ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่า ผลจากการหยุดชะงักของการลงทุนในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคม 2.2 ล้านล้านบาทของรัฐบาลนั้น เป็นอานิสงส์ให้ผู้ซื้อบ้านในอนาคตช่วง 1-2 ปีจากนี้ ไม่ต้องกังวลกับปัญหาการปรับขึ้นของราคาที่อยู่อาศัย และราคาที่ดิน

เนื่องจากราคาวัสดุก่อสร้างที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นตามดีมานด์การใช้วัสดุก่อสร้างในโครงการดังกล่าว จะมีราคาทรงตัวไปอีกระยะหนึ่ง ประกอบกับราคาที่ดินที่เคยปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงก่อนหน้านี้จะลดความร้อนแรงลง ทำให้ต้นทุนในการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร และโครงการอสังหาฯ ต่างๆ ทรงตัว ทำให้ราคาบ้านในช่วง 1-2 ปีนี้จะไม่มีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

ขณะที่นายกสมาคมอาคารชุดไทย ก็เชื่อว่าราคาที่ดินตามแนวรถไฟความเร็วสูงในต่างจังหวัดที่เคยถีบตัวขึ้นแบบพรวดพราดตั้งแต่ 50% 200% หรือบางแห่งสูงถึง 300% นั้นจะทรงตัวไม่ปรับขึ้น และบางแห่งโดยเฉพาะในพื้นที่ที่คาดการว่าจะมีการก่อสร้างเป็นสถานีจอดรถไฟความเร็วสูงนั้นอาจจะปรับตัวลดลงกว่า 50% ได้

“อุ้ย”...งานนี้ไม่รู้ว่า นักเก็งกำไรที่ดินทั้งหลาย โดยเฉพาะนักค้าที่ดิน “มือโป” (โปจนบวมเป่ง) ที่ดอดไปซื้อที่ดินสะสมในพื้นที่ที่คาดว่าจะใช้ก่อสร้างสถานีรถไฟคามเร็วสูง เพื่อหวังว่าจะทำกำไรจากการขายที่ดินที่แอบไปซื้อไว้ก่อนหน้า โดยเฉพาะนักการเมืองที่อินไซด์ข้อมมูลเรื่องการเวนคืนที่ดินทำสถานีจอดรถไฟความเร็วสูง !!...จะยังมีเงินเหลือในกระเป๋ากันหรือเปล่า เพราะหลังจากนี้คงต้องถือที่ดินดิบ พร้อมดอกเบี้ย...จากการกู้เงินมาซื้อที่ดินเก็งกำไร... อุ้ยงานนี้มีซีด....จริงๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น