“ณุศาศิริฯ” เร่งเคลียร์พอร์ตอสังหาฯ 2 หมื่นล.หลังการเมืองไม่เป็นใจ-คืนเงินกองทุนสิงคโปร์

“ณุศาศิริฯ” ทำใจปัญหาการเมือง ระบุหลังชัตดาวน์ต้องประชุมด่วน สั่งหยุดโครงการอสังหาฯ ในเชิงท่องเที่ยวใหม่ หันมาเคลียร์ความสะอาดบ้าน โครงการเก่าในพอร์ต 8 โครงการ มูลค่าถึง 20,000 ล้านบาท ชะลอใช้เงินกู้จากองทุนจากสิงคโปร์ 700 ล้านบาท ระบุหากการเมืองไม่นิ่งก็ไม่จำเป็นต้องใช้ พร้อมเดินหน้าเปิดโรงเรียนนานาชาติเฟส 1 ในโครงการพระราม 2 โชว์หลักสูตรพุทธวจน ที่เปิดสอนเป็นครั้งแรกในโลก

นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA กล่าวว่า จากปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี และต่อเนื่องถึงปัจจุบันว่า ทางบริษัทณุศาศิริฯ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนับตั้งแต่วันแรกที่มีการชัตดาวน์ ทางบริษัทฯ ได้ประชุมด่วนเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ตัดสินใจชะลอแผนการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเชิงการท่องเที่ยวทั้งหมด เช่น โครงการสวนน้ำที่พัทยา และคอนโดมิเนียมตามเมืองท่องเที่ยว ที่เน้นจับกลุ่มนักลงทุนต่างชาติซื้อเพื่อปล่อยเช่า เนื่องจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่ชัดเจน กระทบต่อภาคการท่องเที่ยว

“สิ่งที่เราทำช่วงต้น คือ การคืนเงินบางส่วนจำนวนไม่มากให้แก่กองทุน Advance Opportunities Fund จากสิงคโปร์ ที่เข้ามาลงทุนในหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัท และในขณะนี้ ณุศาศิริฯ ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อน 700 ล้านบาทดังกล่าว ซึ่งต้องดูช่วงไตรมาส 2 ว่า การเมืองเป็นอย่างไร เราไม่รีบ เช่นเดียวกับแผนออกหุ้นเพิ่มทุน 400 ล้านหุ้น เสนอขายนักลงทุนเฉพาะเจาะจงยังไม่จำเป็นเช่นกัน เพราะโครงการที่วางไว้ชะลอเปิดไปก่อน และเมื่อถึงเวลาที่ต้องทำจริงๆ บริษัทอาจมีรายได้เข้ามาทำให้ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนแล้วก็ได้”

นอกจากนี้ ปัจจัยทางการเมืองยังส่งผลต่อภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นในการลงทุนในประเทศไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วย จึงไม่ใช่จังหวะที่จะเดินหน้าโครงการที่พึ่งพาการท่องเที่ยว โดยก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤตการเมืองครั้งปัจจุบัน ณุศาศิริ เร่งขยายการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เชิงท่องเที่ยวมากขึ้น เพราะมองเห็นศักยภาพของธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยที่เติบโตมาก

“การเมืองกระทบท่องเที่ยวมาก และกระทบต่อแผนจำหน่ายบัตรสมาชิกพิเศษไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด (อีลิท คาร์ด) ที่กลุ่มณุศาศิริร่วมมือกับ อีลิท คาร์ดด้วย โดยผู้ซื้อชาวจีนชะลอการตัดสินใจเพราะกังวลเรื่องการเมือง แต่เดือนหน้าณุศาศิริจะยังคงเดินทางไปโรดโชว์ที่ปักกิ่ง และคุนหมิง ประเทศจีน เพื่อขายอีลิท คาร์ดตามแผนเดิม”

เคลียร์บ้านให้สะอาด ดูแลพอร์ต 2 หมื่นล้าน

ขณะที่แผนการลงทุนเปิดโครงการใหม่ๆ ต้องรอดูสถานการณ์การเมืองในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 อีกครั้ง หากคลี่คลายก็พร้อมซื้อที่ดินเพื่อลงทุนใหม่ แต่ถ้ายังไม่ชัดเจนก็จะเน้นพัฒนาและขายโครงการที่มีอยู่ในมือแล้ว 8 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท โดยมี 3 โครงการใหญ่ที่สุด คือ โครงการที่พระราม 2 พัทยา และเขาใหญ่

“โครงการที่ต้องดำเนินการถึง 8 โครงการ ก็เพียงพอไปหลายปี แต่เมื่อทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่เราคิด ก็ต้องหันมาดูแลบ้าน เคลียร์บ้านให้สะอาด ก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ถาม 20,000 ล้านบาท เครียดหรือเปล่า คงบอกได้เลยว่า ไม่เครียด เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด”

นางศิริญา กล่าวว่า โครงการที่พัทยา บนพื้นที่ทั้งหมด 300 ไร่ จะชะลอในส่วนของสวนน้ำ คอนโดเทล และริเวอร์ ออฟ ดรีม ภายใต้ชื่อ ณุศา เวอเตอร์แลนด์ ซึ่งใช้เงินลงทุนกว่า 800 ล้านบาท ส่วนโครงการบ้านสุขภาพ “ณุศา ชีวานี พัทยา” ราคาเริ่มต้นประมาณ 8 ล้านบาท ยังเดินหน้าต่อ ส่วนเขาใหญ่ บนพื้นที่ทั้งหมด 1,000 ไร่ ประกอบด้วย บ้านสุขภาพ โรงแรม สนามกอล์ฟ และสวนผักออแกนิก ทยอยพัฒนาไปแล้ว

สำหรับโครงการย่านพระราม 2 บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ พัฒนาเฟสแรกไปแล้ว 100 ไร่ ประกอบด้วย บ้านจัดสรร 80 ยูนิต ราคา 10-20 ล้านบาท ใกล้ปิดการขายแล้ว โรงเรียนนานาชาตินอริช จากประเทศอังกฤษ และคอมมูนิตีมอลล์ ที่จะเปิดตัวในเดือน เม.ย.นี้

ด้านบ้านจัดสรรเฟส 2 จะเป็นบ้านหรู ราคาเริ่มต้น 40 ล้านบาท มี 49 ยูนิต มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท จะเปิดตัวปลายปี และเฟส 3 จะเป็นบ้านสุขภาพ 70 ยูนิต เริ่มต้น 8 ล้านบาท มูลค่าประมาณ 560 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะมียอดขาย และรายได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท

อนึ่ง ยอดขายที่รอบันทึกเป็นรายได้ (backlog) ที่มีอยู่ 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมในสัดส่วน 60-70% ที่เหลือเป็นโครงการบ้าน แบ่งเป็นโครงการ Parc Exo Condominium ถนนเกษตร-นวมินทร์กว่า 1,000 ล้านบาท โครงการ Up Ekamai มูลค่า 600-700 ล้านบาท ที่เหลือเป็นโครงการชีวานี พัทยา และโครงการ Nusa Lake Como พระราม 2

เปิด ร.ร.นานาชาตินอริช รุกตลาดในเมืองไทย

น.ส.ลินดา เมฆดารา กรรมการบริหาร โรงเรียนนานาชาตินอริช กล่าวว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการเปิดโรงเรียนนานาชาตินอริช (Norwich International School of Bangkok) อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเป็นโรงเรียนนานาชาติ โดยเปิดสอนตั้งแต่เด็กเล็ก จนถึง Year3 ในช่วงแรก และจะทำการขยายการสอนต่อจนถึง Year13 โดยมีแนวคิดการเลือกสร้างหลักสูตรที่ดีที่สุด ต้องการจะเห็นเด็กที่สามารถเติบโตเป็นคนเก่ง ฉลาด และเป็นคนดี จึงมุ่งมั่นเป็นอย่างมากในการสร้างหลักสูตรที่ดีที่สุด ประกอบด้วย 3 สิ่งสำคัญ คือ หลักสูตรการเรียนจากประเทศอังกฤษ หลักสูตรพัฒนาสมอง และเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการนำพุทธวจนมาเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรนานาชาติ ซึ่งมั่นใจว่า 3 สิ่งนี้จะทำให้นักเรียนเติบโตเป็นเด็กที่เก่งด้านวิชาการ มีสมองที่ชาญฉลาด และที่สำคัญจะเป็นคนดีของสังคม

นางศิริญา กล่าวเติมว่า โรงเรียนนานาชาตินอริช มีพื้นที่กว่า 7.5 ไร่ (11992.791 ตร.ม.) ในเฟส 1 และในอนาคตจะขยายพื้นที่เพื่อรองรับนักเรียนอีก 7.8 ไร่ (12572.775 ตร.ม.) ตั้งอยู่ภายในโครงการ ณุศาศิริ พระราม 2 ซึ่งมีพื้นที่กว่า 350 ไร่ โดยการออกแบบโรงเรียนในครั้งนี้บริษัทได้นำเอาแนวคิด และรูปแบบของการผสมผสานกันระหว่างแนวทางของงานสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก หรือแบบทัสคานีสไตล์ ที่จะตั้งอยู่รายล้อมโครงการตั้งแต่บริเวณส่วนงานสร้างของ Nusa Avenue มาผสมผสานกับรูปแบบบ้านที่เป็นแบบ Contemporary Style ตามแบบฉบับตะวันออก เพื่อสร้างความรู้สึกเสมือนกำลังได้อาศัยอยู่ในใจกลางเมืองขนาดเล็กที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เหมาะแก่การสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ อาคารประกอบไปด้วยห้องเรียน จำนวน 12 ห้อง ห้องสมุด และสื่อการสอนสมัยใหม่ 2 ห้อง ห้องเรียนศิลปะ และบัลเลต์ สวนน้ำ และสระว่ายน้ำ รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องเล่นกลางแจ้ง พร้อมสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดทั้งบรรยากาศภายนอก ระบบฟอกอากาศในห้องเรียน แม้กระทั่งอุปกรณ์ในการเรียนที่ได้รับการคัดสรรอย่างดี