xs
xsm
sm
md
lg

ชาวจีนสนซื้อคอนโดฯ ในไทยพ่วงอีลิท คาร์ด ณุศาศิริฯ โรดโชว์ซ้ำปักกิ่งหวังโกยพันล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ณุศาศิริ” โชว์อสังหาฯ รายแรกตัวแทนขายบัตรอีลิท คาร์ด เล็งขายพวงห้องชุด ระบุชาวจีนสนใจซื้อกว่า 100 ราย แต่ติดปัญหาการเมือง เตรียมเดินหน้าโรดโชว์ต่อที่ปักกิ่ง เม.ย.นี้ คาดกวาดยอดขาย 1,000 ล้านบาท จากเป้ายอดขายทั่งปี 3,500 ล้านบาท

นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือกับบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (TPC) เพื่อเป็นผู้แทนจำหน่ายบัตรสมาชิกพิเศษ “ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด (อีลิท คาร์ด)” ถือเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายแรกที่ร่วมมือกับ อีลิท คาร์ด เพราะถือเป็นโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญของบริษัทฯ ในการขยายฐานลูกค้าชาวต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันมีความสนใจเข้ามาลงทุนทางธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

สำหรับเงื่อนไข และข้อตกลงในโครงการบัตรสมาชิกพิเศษอีลิท คาร์ด ร่วมกับ NUSA ผู้ยื่นคำขอสมัครสมาชิกจะต้องถือครองกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ในโครงการของบริษัท เช่น โครงการคอนโดมิเนียม Parc Exo ถ.เกษตร-นวมินทร์ และ Up Ekamai ถ.เอกมัย ปัจจุบันทั้ง 2 โครงการมีจำนวนยูนิตเหลือขาย 600-800 ยูนิต มูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท

โดยสิทธิประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับ ประกอบด้วย สิทธิพิเศษการดูแลสุขภาพ โดยสามารถรับบริการตรวจสุขภาพฟรีที่ Panacee โปรแกรมตรวจเลือด และบอดี้สแกน 2 ครั้ง/ปี เป็นเวลา 20 ปี รวมมูลค่ากว่า 600,000 บาท และรับบริการสถานสุขภาพเฉพาะทาง The KAYA คอร์ส Full Physiotherapy + Therapeutic Massage + Therapeutic Exercise รวม 20 ครั้ง มูลค่าประมาณ 80,000 บาท นอกจากนั้น ยังได้รับบริการดูแลความงามจากผู้เชี่ยวชาญ D.N.A. CLINIC กับ Deep White Plus Program และ Face Mask จํานวน 20 ครั้ง มูลค่าสูงสุด 90,000 บาท และส่วนลดพิเศษสำหรับการเข้าพักในเครือโรงแรม D Varee ทั่วโลก และส่วนลดร้านค้า ร้านบริการ (สปา) ชั้นนำอีกหลายแห่ง

ทั้งนี้ บริษัทฯ วางแผนการตลาดเน้นเจาะฐานลูกค้าชาวจีน สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย เนื่องจากมีอุปนิสัยใกล้เคียงกับคนไทย โดยการทำกิจกรรมการตลาด และการขายแบบเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย มีการแนะนำโครงการบัตรไทยแลนด์ พริวิเลจให้เป็นที่รู้จักผ่านการโรดโชว์ ออกบูทแนะนำ และโฆษณาในสื่อต่างๆ ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในระดับนานาชาติ ซึ่งบัตร 1 ใบ มีมูลค่า 1 ล้านบาท

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทฯ ได้มีการเดินทางไปโรดโชว์ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อแนะนำโครงการดังกล่าว ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีกลุ่มลูกค้าชาวจีนจำนวนมากลงทะเบียนกว่า 100 ราย ให้ความสนใจจะเดินทางมาดูโครงการของบริษัท และคาดว่าในช่วงต่อจากนี้โครงการจะได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง คาดว่าภายในระยะเวลา 3 เดือนแรกจะสามารถขายได้ 10-80 ใบ ภายใน 6 เดือน สามารถขายได้ 200 ใบ และภายในระยะเวลา 1 ปี จะทำยอดขายได้ประมาณ 500 ใบ

ปัจจุบัน คนจีนที่มีฐานะร่ำรวยมีความต้องการบ้านหลังที่ 2 แต่ไม่สามารถซื้อบ้านหลังที่ 2 ในประเทศตนเองได้ จึงหันมาสนใจเมืองไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะขนาดตั้งแต่ 30 ตารางเมตร ระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป แต่ที่ผ่านมา ไม่ค่อยได้รับความสะดวกสบายเท่าที่ควร บริษัทจึงร่วมมือกับอีลิท คาร์ด ในการร่วมทำตลาดในครั้งนี้ และเชื่อว่าเมื่อการเมืองในประเทศไทยนิ่ง คนจีนก็พร้อมที่จะเข้ามามากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในเดือนเมษายนนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะไปโรดโชว์ที่กรุงปักกิ่ง อีกครั้ง ส่วนประเทศในแถบตะวันออกกลางก็ให้ความสนใจที่จะเข้าไปทำตลาดเช่นกัน แต่คงเป็นเรื่องในอนาคต

นายวิษณุ กล่าวถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2557 ว่า จะยังไม่มีการพัฒนาโครงการใหม่ แต่จะเน้นการพัฒนาในเฟสต่อเนื่องประมาณ 4 โครงการ แบ่งเป็นในเขต กทม. 2 โครงการ,พัทยา 1 โครงการ และเขาใหญ่ 1 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท

“หากผลตอบรับจากการร่วมมือกับไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด ได้รับผลตอบรับที่ดี บริษัทพร้อมที่จะเปิดขายโครงการที่อยู่ในเมืองท่องเที่ยว เช่น พัทยา ภูเก็ต เนื่องจากชาวจีนชอบเมืองท่องเที่ยวชายทะเล”

อย่างไรก็ตาม ในปี 2557 นี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 3,500 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวเป็นยอดขายจากแคมเปญที่ร่วมกับอีลิท คาร์ด ประมาณ 1,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 4,000 ล้านบาท โดยมียอดแบ็กล็อกที่จะรับรู้ในปีนี้ประมาณ 2,400 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยอดขายจากคอนโดฯ “ทั้งนี้ในช่วงที่การเมืองร้อนแรง ยอมรับว่ายอดขายและยอดเข้าเยี่ยมชมโครงการลดลงประมาณ 20-30% แต่ด้วยที่ตั้งโครงการอยู่ย่านชานเมือง จึงไม่ค่อยมีผลกระทบมากนัก”
กำลังโหลดความคิดเห็น