“ณุศาศิริ” ระดมเงินครั้งใหญ่ตั้งกองทุนอสังหาฯ มูลค่า 1,000 ล้านบาท เพิ่มทุนอีก 1,000 ล้านหุ้น รองรับการลงทุนปีหน้าเปิด 2 โครงการใหม่ ย่านพระราม 2 มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ยอมรับรายได้พลาดเป้าเหลือ 1,545 ล้านบาท จากงานก่อสร้างล่าช้า พร้อมปรับแผนขายคอนโดฯ ในสวนน้ำพัทยาเข้ากองทุน
นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมยื่นขออนุญาตต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์ มูลค่า 1,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเสนอขายหน่วยลงทุนได้ในไตรมาส 1/57 โดยจะขายสินทรัพย์ที่เป็นคอมมูนิตีมอลล์ 1 โครงการ และคอนโดมิเนียม PARC EXO 2 โครงการเข้ากองทุนฯ
นอกจากนี้ อยู่ในขั้นตอนการออกหุ้นกู้แปลงสภาพราว 700 ล้านบาท และออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายบุคคลในวงจำกัด (PP) อีก 400 ล้านหุ้น โดยระยะเวลาดำเนินการขึ้นกับความจำเป็นในการใช้เงินลงทุน อีกทั้งแหล่งเงินที่จะใช้ลงทุนในปีหน้าจะมาจากโครงการที่รอโอนไตรมาส 1-2/57 ราว 1,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีวงเงินกู้สถาบันการเงินที่สามารถเบิกใช้ได้อีก 1,600 ล้านบาท ทำให้ในปี 57 กระแสเงินสดไม่ติดขัด และเพียงพอต่อโครงการทั้งหมด
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 57 บริษัทตั้งเป้ายอดรับรู้รายได้ที่ประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท จากปีนี้รายได้พลาดเป้ามาเหลือ 1,540 ล้านบาท เนื่องจากหลายโครงการโอนล่าช้า เพราะปัญหาแรงงาน และการก่อสร้าง แต่ยังมั่นใจจะมีกำไรสุทธิ โดยแผนงานในปีหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ 2 แห่ง มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท ซึ่งมีที่ดินในพอร์ตแล้ว ประกอบด้วย The Lake Como และ NUSA Chivani พระราม 2 นอกจากนี้ บริษัทมีแผนเปิดโครงการในต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองท่องเที่ยว
สำหรับรายได้ในปีหน้ามาจากโครงการคอนโดมิเนียมในสัดส่วนราว 60% หรือกว่า 2,000 ล้านบาท ที่เหลือมาจากโครงการแนวราบ ซึ่งขณะนี้มียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่า 3,400 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ในปี 57-58 ขณะที่บริษัทตั้งงบลงทุนราว 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสวนน้ำพัทยา 800 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมในพื้นที่เดียวกัน โครงการดังกล่าวมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 6,000 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างในปี 57 โดยมีพื้นที่รวม 162 ไร่ แบ่งเป็นสวนน้ำ 132 ไร่ และคอนโดมิเนียม 30 ไร่
สำหรับโครงการคอนโดฯ ภายในส่วนน้ำ เดิมบริษัทมีแผนจะพัฒนาแล้วขายในรูปแบบคอนโดเทล หรือไทม์แชริ่ง แต่เนื่องจากคณะกรรมการบริษัทเห็นว่า การพัฒนาให้เป็นรูปแบบโรงแรม มีห้องประชุม สัมมนา จัดเลี้ยงแล้วขายเข้ากองทุน REIT จะมีผลตอบแทนที่ดีกว่า จึงนำแผนกลับมาศึกษาใหม่ที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า คาดว่าจะสรุปได้เร็วๆ นี้
“ปี 57 คาดรายได้ 3-4 พันล้านบาท 60% เป็นคอนโดฯ เช่น PARC EXO ยังโอนต่อเนื่องไตรมาส 1-2 พอไตรมาส 3 จะมี Up Ekamai สร้างเสร็จแล้วมี backlog 500 ล้านบาท น่าจะโอนได้หมด และไตรมาส 4 ก็จะมีคอนโดฯ ที่จะสร้างเสร็จเพิ่มก็จะโอนได้อีก ซึ่งจากนี้ไปก็จะมีแนวสูงโอนอยู่เรื่อยๆ และแนวราบพร้อมที่ดินต่างจังหวัด (เขาใหญ่) ถ้าโครงการเสร็จก็โอนต่อเนื่อง” นายวิษณุ กล่าว