xs
xsm
sm
md
lg

ธปท. หั่นเป้าจีดีพีปีนี้เหลือแค่ 2.7% คลังไม่กล้าฟันธงปีนี้ได้รัฐบาลใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ธปท.” หั่นเป้าจีดีพีปีนี้เหลือแค่ 2.7% หลังแนวโน้มการบริโภค-ลงทุนในประเทศยังอ่อนแอ พร้อมเฉือนตัวเลขเศรษฐกิจลงอีก หลังสถานการณ์ทางการเมืองยังไร้ทางออก “สศค.” บ่นอุบ “การเมืองวุ่น” ทำให้ไทยเสียโอกาสในหลายด้าน ไม่กล้าฟันธงว่าปีนี้จะได้ตั้งรัฐบาลใหม่

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2557 ลดลงเหลือ 2.7% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 3% เนื่องจากการชะลอลงของอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอลงชัดเจนในครึ่งปีแรก โดย ธปท.มองว่า หากสถานการณ์การเมืองคลี่คลายภายในกลางปี 2557 จะช่วยสนับสนุนให้อุปสงค์ในประเทศปรับตัวได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนของแนวโน้มการส่งออกของไทยในปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ 4.5% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ติดลบ 0.2% ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวคาดว่าน่าจะฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ภายหลังจากรัฐบาลประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นในช่วงสงกรานต์นี้ ยาวไปจนถึงครึ่งหลังของปี 2557

สำหรับแรงกระตุ้นทางการคลังในขณะนี้ยังทำได้อย่างจำกัด โดยเฉพาะในส่วนของการเบิกจ่ายของรัฐบาล โดยคาดว่าอัตราการเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2557 จะอยู่ที่ 90.5% ส่วนการจัดทำงบประมาณปี 2558 คาดว่าจะล่าช้าถึง 1 ไตรมาส ขณะที่การใช้จ่ายนอกงบประมาณตาม พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำในปีนี้จะมีการเบิกจ่ายเพียง 1.2 หมื่นล้านบาท โดยจะเป็นเฉพาะโครงการเร่งด่วนที่ได้รับการอนุมัติเงินกู้แล้ว เช่น ขุดลอกคูคลอง ซ่อมถนน ขณะที่โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน คาดว่าจะเบิกจ่ายได้เพียง 1.7 หมื่นล้านบาท เฉพาะโครงการต่อเนื่องเดิมของรัฐวิสาหกิจที่มีความพร้อม เช่น โครงการรถไฟฟ้า 10 สาย

“ยอมรับว่าในระยะต่อไปมีโอกาสที่ตัวเลขจีดีพีไทยในปีนี้จะถูกปรับลดลงมาอีก ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาเป็นโมฆะ และทำให้ความหวังในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ล่าช้าออกไปอีก ส่งผลให้ความไม่แน่นอนทางการเมืองยังมีต่อไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่ได้อยู่ในการพิจารณาของ ธปท.ครั้งนี้” นายไพบูลย์ กล่าว

นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า การบริโภคภายในประเทศยังมีความอ่อนแอ โดยขยายตัวได้เพียง 0.3% ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนติดลบ 0.5% การอุปโภค และลงทุนภาครัฐอยู่ที่ 2.5% ทั้งนี้เป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่หมดลง ประชาชนระวังการใช้จ่ายมากขึ้น รวมถึงความเชื่อมั่นลดลงจากความยืดเยื้อของสถานการณ์ทางการเมือง

ขณะที่แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปีนี้อยู่ที่ 1.5% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 1% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 2.5% จากปีก่อน 2.2% ส่วนปัญหาหนี้ครัวเรือนยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนลดลงบ้าง โดย ธปท.ยังได้คาดการณ์แนวโน้มจีดีพีในปี 2558 จะขยายตัวที่ 4.8% ขณะที่การส่งออกอยู่ที่ 7.7% การบริโภคภาคเอกชน 4.6% การลงทุนภาคเอกชน 10.2% การลงทุนภาครัฐ อยู่ที่ 2.7% อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.3% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 2.3%

ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง กล่าวว่า การที่ประเทศไทยยังตั้งรัฐบาลใหม่ไม่ได้ จะกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ไม่ถึง 3% ต่อปีค่อนข้างแน่นอน แต่จะต่ำกว่า 2% ต่อปีหรือไม่ คงต้องว่าจะตั้งรัฐบาลใหม่ได้ภายในปีนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากอดีตที่ผ่านมาปัญหาการเมืองไม่ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจกิจ เพียงแต่ทำให้ขยายตัวได้น้อย หรือไม่ขยายตัวเท่านั้น

“ปัญหาการเมืองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เศรษฐกิจไทยเสียโอกาสในหลายๆ เรื่อง เช่น การลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การแก้ปัญหาความยากจน สศค. คาดว่าจากปัจจัยเสี่ยงหลายประการที่เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญในปีนี้ อาจส่งผลให้มีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจครั้งต่อไปได้” นายสมชัย กล่าว

ทั้งนี้ สศค. วิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2557 นี้ ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ยืดเยื้อ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุปสงค์ในประเทศ บ่งชี้เครื่องชี้ด้านการบริโภคภาคเอกชนที่บ่งชี้สัญญาณชะลอตัว เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับลดลงต่อเนื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น