“บลจ.แมนูไลฟ์” ระบุการเมืองกระทบการลงทุนในหุ้น ทำดัชนีครึ่งปีแรกแกว่ง 1,300-1,400 จุด เผยการลงทุนกระทบภาพรวมอีก หากศาลตัดสิน พ.ร.บ. 2 ล้านล้านผิดจริง
นายต่อ อินทวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แมนูไลฟ์ กล่าวว่า แม้สถานการณ์การเมืองขณะนี้จะผ่อนคลายมากขึ้น แต่ความไม่ชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายด้านต่างๆ โดยเฉพาะนโยบายทางเศรษฐกิจต้องล่าช้าออกไป ประกอบกับการอ่อนค่าของเงินบาท จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมตลาดหุ้นครึ่งแรกของปีนี้ให้เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ที่ระดับ 1,350-1,400 จุด เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังขาดความเชื่อมั่น อีกทั้งมองว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทยในอีก 2 ปีนับจากนี้จะยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เช่นเดิม เพราะแม้การจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะแล้วเสร็จ แต่ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในการแก้ปัญหาสะสม จึงเป็นเรื่องยากที่จะเห็นตลาดหุ้นไทยปีนี้มีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน
ส่วนผลการวินิจฉัยคดีร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท หากมติขององค์คณะตุลาการศาลชี้ว่าคดีดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญจริง ก็จะยิ่งเป็นปัจจัยลบต่อการลงทุน ส่วนจะกระทบต่อการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจเมื่อเปิดเออีซีหรือไม่นั้น ยังคงต้องพิจารณาแบบปีต่อปี โดยเบื้องต้นอาจต้องปรับการวางแผนธุรกิจจากระยะยาวมาเป็นระยะสั้น แต่สิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนที่สุดคือผลักดันให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ขณะที่มองว่า การปรับลด หรือคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.25 ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ในบ่ายวันนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจเท่าใดนัก แต่หากตัดสินใจปรับลดก็อาจทำให้เศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะชะลอตัวขณะนี้เติบโตได้ดีขึ้น
นายต่อ ยังกล่าวถึงทิศทางการดำเนินงานของบริษัท ว่า จะเน้นให้ลูกค้าลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี / มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง / สามารถสร้างกระแสเงินสดได้ และการเติบโตของหุ้นมาจากปัจจัยที่ยั่งยืน โดยล่าสุด ได้ออกกองทุนใหม่ MS-EUROPE เนื่องจากเล็งเห็นโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนในตลาดยุโรป หลังเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้เริ่มฟิ้นตัว ประเมินได้จากอัตราการเติบโตที่เป็นบวกติดต่อกันหลายไตรมาสในปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนให้นักลงทุนได้ถึงร้อยละ 9
สำหรับราคาทองคำปีนี้ มองว่าจะทรงตัวอยู่ในกรอบแคบๆ เช่นเดียวกับหุ้น อยู่ที่ระดับ 1,300-1,400 ดอลล่าร์สหรัฐต่อออนซ์ แต่หากได้รับปัจจัยลบรุนแรง เช่น สถานการณ์การเมืองที่วิกฤต ราคาก็อาจปรับลดลงได้อีก
