xs
xsm
sm
md
lg

ประเมินโครงการลงทุน 2 ล้านล้าน หยุดชะงัก อสังหาฯ ส่อเค้าอ่วม นโยบายรัฐไม่แน่นอน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้นปิดลบ 7 จุด กังวลโครงการลงทุน 2 ล้านล้าน หยุดชะงัก กระทบโครงสร้างพื้นฐานล่ม กระทบธุรกิจอสังหาฯ เนื่องจากไปกว้านซื้อที่ดินเอาไว้แล้ว และอาจทำให้ความเชื่อมันของนักลงทุนต่างชาติลดลง เพราะมองว่า นโยบายของรัฐบาลไทยขาดความแน่นอน กระทบต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุน ขณะที่ตลาดฯ ยังมีปัจจัยบวก กนง. หั่นดอกเบี้ย เข้ามาช่วยหนุน

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (12 มี.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,356.42 จุด ลดลง 7.86 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.58% มูลค่าการซื้อขาย 30,287.76 ล้านบาท โดยสัดส่วนการลงทุนแยกตามประเภทนักลงทุนพบว่า บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 616.42 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 225.06 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไป ซื้อสุทธิ 787.62 ล้านบาท และสถาบัน ซื้อสุทธิ 53.86 ล้านบาท

นักวิเคราะห์มองว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ยืนอยู่ในลบเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากได้รับปัจจัยกดดันตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดกับรัฐธรรมนูญ ขณะที่ปัจจัยปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ยังคงมีอยู่ต่อไป

"ส่วนที่กระทบมากที่สุดก็คือธุกริจอสังหาริมทรัพย์ เพราะบางรายได้เข้าไปกว้านซื้อที่ดินตามแนวเส้นทางคมนาคมในโครงการนี้แล้ว เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต ซึ่งจะทำให้มีความเสี่ยงสูงขึ้นหากรัฐบาลใหม่เปลี่ยนเส้นทางไป"

ส่วนผู้ประกอบการก่อสร้าง ไม่ค่อยได้รับผลระทบ เนื่องจากเป็นเพียงผู้รับจ้างก่อสร้าง รวมทั้งยังมีโครงการภาครัฐที่ค้างอยู่พอสมควร แต่ทั้งนี้ก็ทำให้ความเชื่อมันของนักลงทุนต่างชาติลดลง และมองว่านโยบายของรัฐบาลไทยขาดความแน่นอน กระทบต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุน

ในส่วนของผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยนั้น ถือว่ากระทบไม่มาก เพราะงบลงทุน 2 ล้านล้านบาท กระจายเบิกจ่าย 7 ปี หรือประมาณ ปีละ 3 แสนล้านบาท ยังไม่ได้ถูกคำนวนไว้ในประมาณการจีดีพี ในแต่ละปี ซึ่งปกติแล้าประเทศไทยจะใช้งบลงทุนก่อสร้างภาครัฐประมาณ 9 แสนล้านบาท

อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยบวกที่เข้ามาช่วยพยุงดัชนีไม่ให้ปรับลงไปแรง จากผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในช่วงบ่ายที่ออกมามีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 2% เพื่อพยุงภาวะเศรษฐกิจ และเป็นแรงส่งในระยะต่อไป

ด้านนายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ทรงตัวได้ดี แม้จะอยู่ในแดนลบแต่ก็ไม่ลงไปมาก หลังจากที่ตลาดมีปัจจัยทั้งในแง่บวก และลบผสมกัน โดยเรื่องศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัย พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดรัฐธรรมนูญทั้งเนื้อหา-กระบวนการ ทำให้ตกไปทั้งฉบับ ซึ่งจากนี้ไปก็ต้องรัฐบาลใหม่มาทำเป็นงบปีแทน และการลงทุนที่มาจากโครงสร้างพื้นฐานก็จะไม่ใช่ความหวังของปีนี้แล้ว

"แต่ตลาดฯก็มีปัจจัยบวกจากที่กนง.ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ แต่มองว่าการลดครั้งนี้จะเป็นกระสุนนัดสุดท้ายแล้ว ซึ่งถ้ากระตุ้นการใช้จ่ายไม่ได้จริงก็คงจะหมดกระสุนแล้ว และจะเห็นได้ว่าวันนี้แบงก์ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรเลย อยู่นิ่งๆ ซึ่งปกติแบงก์จะลดหรือเพิ่มดอกเบี้ย ตามนโยบายของ กนง. ที่ส่งสัญญาณออกมา"

นอกจากนี้ ตลาดบ้านเรายังต้องรอดูว่า จะมีการเลื่อนการชี้แจงข้อกล่าวหาของคณะกรรมการป้องกันและปราบกรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในวันที่ 14 มี.ค.นี้ หรือไม่

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ คาดว่า ตลาดฯคงแกว่งแคบ และควรจะติดตามทิศทางตลาดต่างประเทศด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,348 จุด แนวต้าน 1,368 จุด

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,962.56 ล้านบาท ปิดที่ 210.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,346.44 ล้านบาท ปิดที่ 193.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,193.52 ล้านบาท ปิดที่ 29.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,100.80 ล้านบาท ปิดที่ 41.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,049.37 ล้านบาท ปิดที่ 72.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น