นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่วนบ้านเราวันนี้คงจะต้องติดตามดูเรื่อง ป.ป.ช.พิจารณาผลไต่สวนกรณีที่มาของสมาชิกวุฒิสภา
นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง คาดวันนี้ดัชนีฯ เปิดลงทดสอบแนวรับหลัก 1,354 จุด ซี่งเป็นการปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดภูมิภาค-ตลาดสหรัฐฯ ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า หลังประธานเฟดส่งสัญญาณอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากที่เฟดยุติการใช้มาตรการ QE ไปแล้วราว 6 เดือน ซึ่งสร้าง Surprise ให้แก่ตลาดฯ มาก แต่การทำอย่างนี้ก็แสดงว่าเศรษฐกิจได้ฟื้นตัวขึ้นแล้ว อย่างไรก็ดี การขึ้นดอกเบี้ยถือเป็น Negative ของตลาดฯ ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่า และเงินบาท รวมถึงเงินสกุลอื่นในเอเชียก็จะอ่อนค่าลง ส่วนบ้านเราวันนี้คงจะต้องติดตามดูเรื่อง ป.ป.ช.พิจารณาผลไต่สวนคำร้องถอดถอน “สมศักดิ์-นิคม” กรณีแก้ไขที่มา ส.ว. และที่สำคัญพรุ่งนี้ (21 มี.ค.) จะต้องรอดูศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ พร้อมให้แนวรับ 1,360-1,341 แนวต้าน 1,370 จุด โดยการเข้าซื้อเล่นรอบคราวนี้ ควรจำกัดเม็ดเงินในการเก็งกำไร
สอดคล้องกับนายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงดาวโจนส์ที่ได้ปรับตัวลงเมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นผลจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากที่เฟดยุติการใช้มาตรการ QE ไปแล้วราว 6 เดือน ซึ่งแสดงว่าเศรษฐกิจได้ฟื้นตัวขึ้นแล้ว พร้อมให้แนวรับ 1,360-1,341 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,370 จุด
ขณะที่ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดลบเป็นวันที่ 2 อีก 8.81 จุดมาอยู่ที่ 1,364.27 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 42,349 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 1,000 ล้านบาท และกลับมา Long สุทธิใน Index Futures เล็กน้อย 58 สัญญา โดยยังคงซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 มากถึง 5,152 ล้านบาท
ประเด็นการเมืองภายในประเทศกลับมามีน้ำหนักอีกครั้ง MBKET ให้น้ำหนักต่อการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. โมฆะหรือไม่ ในวันพรุ่งนี้เช้า มากกว่าการลงมติของ ป.ป.ช.ต่อกรณี นายสมศักดิ์ ประธานรัฐสภา และนายนิคม ประธานวุฒิสภาในวันนี้ เพราะประเด็นการเลือกตั้งจะเป็นตัวชี้ภาพการเมืองภายในประเทศจะเดินหน้าต่อได้หรือไม่ โดยตลาดคาด ศาลฯ จะพิจารณาการเลือกตั้งเป็น “โมฆะ” ซึ่งจะเกิดการเก็งกำไรด้านบวกต่อเนื่องในวันนี้ และหากเป็นไปตามคาดจะเกิดแรงขายสะท้อนผลในวันพรุ่งนี้
แต่หากศาลฯ พิจารณาการเลือกตั้ง “ไม่เป็นโมฆะ” ในวันพรุ่งนี้เช้า คาดว่า SET INDEX จะปรับฐานลงแรง ซึ่ง MBKET ให้น้ำหนักกับโอกาสเกิดในทางนี้มากกว่าข้อแรก
สำหรับผลการประชุมเฟดคืนวานนี้ ยังคงเดินหน้าลดวงเงิน QE อีก US$1.0 หมื่นล้าน เป็น US$5.5 หมื่นล้าน/เดือน และที่สำคัญ เฟด พร้อมขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลังจากสิ้นสุด QE ใน 6 เดือนจากนั้น เป็นการส่งสัญญาณพร้อมปรับนโยบายการเงินที่เข้มงวดในต้นปีหน้า
ดังนั้น MBKET คงแนะนำ “ขายทำกำไรและถือเงินสดมากขึ้น” พร้อมเลือกหุ้น Defensive เพื่อพักเงิน
นักวิเคราะห์ บล.บัวหลวง คาดวันนี้ดัชนีฯ เปิดลงทดสอบแนวรับหลัก 1,354 จุด ซี่งเป็นการปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดภูมิภาค-ตลาดสหรัฐฯ ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า หลังประธานเฟดส่งสัญญาณอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากที่เฟดยุติการใช้มาตรการ QE ไปแล้วราว 6 เดือน ซึ่งสร้าง Surprise ให้แก่ตลาดฯ มาก แต่การทำอย่างนี้ก็แสดงว่าเศรษฐกิจได้ฟื้นตัวขึ้นแล้ว อย่างไรก็ดี การขึ้นดอกเบี้ยถือเป็น Negative ของตลาดฯ ทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่า และเงินบาท รวมถึงเงินสกุลอื่นในเอเชียก็จะอ่อนค่าลง ส่วนบ้านเราวันนี้คงจะต้องติดตามดูเรื่อง ป.ป.ช.พิจารณาผลไต่สวนคำร้องถอดถอน “สมศักดิ์-นิคม” กรณีแก้ไขที่มา ส.ว. และที่สำคัญพรุ่งนี้ (21 มี.ค.) จะต้องรอดูศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ พร้อมให้แนวรับ 1,360-1,341 แนวต้าน 1,370 จุด โดยการเข้าซื้อเล่นรอบคราวนี้ ควรจำกัดเม็ดเงินในการเก็งกำไร
สอดคล้องกับนายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงดาวโจนส์ที่ได้ปรับตัวลงเมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นผลจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากที่เฟดยุติการใช้มาตรการ QE ไปแล้วราว 6 เดือน ซึ่งแสดงว่าเศรษฐกิจได้ฟื้นตัวขึ้นแล้ว พร้อมให้แนวรับ 1,360-1,341 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,370 จุด
ขณะที่ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุประเด็นสำคัญวันนี้ ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดลบเป็นวันที่ 2 อีก 8.81 จุดมาอยู่ที่ 1,364.27 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 42,349 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 1,000 ล้านบาท และกลับมา Long สุทธิใน Index Futures เล็กน้อย 58 สัญญา โดยยังคงซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 3 มากถึง 5,152 ล้านบาท
ประเด็นการเมืองภายในประเทศกลับมามีน้ำหนักอีกครั้ง MBKET ให้น้ำหนักต่อการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. โมฆะหรือไม่ ในวันพรุ่งนี้เช้า มากกว่าการลงมติของ ป.ป.ช.ต่อกรณี นายสมศักดิ์ ประธานรัฐสภา และนายนิคม ประธานวุฒิสภาในวันนี้ เพราะประเด็นการเลือกตั้งจะเป็นตัวชี้ภาพการเมืองภายในประเทศจะเดินหน้าต่อได้หรือไม่ โดยตลาดคาด ศาลฯ จะพิจารณาการเลือกตั้งเป็น “โมฆะ” ซึ่งจะเกิดการเก็งกำไรด้านบวกต่อเนื่องในวันนี้ และหากเป็นไปตามคาดจะเกิดแรงขายสะท้อนผลในวันพรุ่งนี้
แต่หากศาลฯ พิจารณาการเลือกตั้ง “ไม่เป็นโมฆะ” ในวันพรุ่งนี้เช้า คาดว่า SET INDEX จะปรับฐานลงแรง ซึ่ง MBKET ให้น้ำหนักกับโอกาสเกิดในทางนี้มากกว่าข้อแรก
สำหรับผลการประชุมเฟดคืนวานนี้ ยังคงเดินหน้าลดวงเงิน QE อีก US$1.0 หมื่นล้าน เป็น US$5.5 หมื่นล้าน/เดือน และที่สำคัญ เฟด พร้อมขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลังจากสิ้นสุด QE ใน 6 เดือนจากนั้น เป็นการส่งสัญญาณพร้อมปรับนโยบายการเงินที่เข้มงวดในต้นปีหน้า
ดังนั้น MBKET คงแนะนำ “ขายทำกำไรและถือเงินสดมากขึ้น” พร้อมเลือกหุ้น Defensive เพื่อพักเงิน