xs
xsm
sm
md
lg

“กอบศักดิ์” หนุนเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฟื้นความเชื่อมั่น พ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล้านล่ม ไม่กระทบเม็ดเงินลงทุนปี 57

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“กอบศักดิ์” หนุนเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฟื้นความเชื่อมั่นต่างชาติ เพราะจะช่วยยุติความรุนแรง ส่วนโครงการลงทุน 2 ล้านล้านที่ล่มไปนั้น เชื่อว่าจะกระทบต่อเม็ดเงินลงทุนในปีนี้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากในงบประมาณรายจ่ายประจำปี 57 วงเงิน 2.5 ล้านล้านบาท ร้อยละ 80 เป็นงบรายจ่ายประจำ ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 4.4 แสนล้านบาท เป็นรายจ่ายเพื่อการลงทุน ซึ่งในส่วนนี้เป็นงบจาก พ.ร.บ.เงินกู้เพียง 4 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ซึ่งถือเป็นจำนวนที่น้อยมาก

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการที่รัฐบาลประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาเป็น พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อดูแลความเรียบร้อยสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้นั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะสร้างความเชื่อมั่นในสายตาของชาวต่างชาติว่าจะไม่เกิดความรุนแรงเกิดขึ้น และน่าจะทำให้บรรยากาศของเมืองไทยกลับมาดีขึ้น แต่อยากให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาพูดคุยกันเพื่อหาทางออกให้แก่บ้านเมือง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเมืองไทยจะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าหากจบลงเร็วไม่ยาวไปกว่าอีก 2-3 เดือน ก็เชื่อว่าน่าจะทำให้ทุกอย่างกลับมาสู่ภาวะปกติได้ โดยเฉพาะความเชื่อมั่น แต่หากมองในแง่เศรษฐกิจไทย แม้จะมีปัญหาทางการเมือง เศรษฐกิจไทยมีความแข็งแกร่ง และน่าจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3 ในปีนี้ หรือหากจะอยู่ที่ร้อยละ 2.5-3 ก็ถือว่ายังเป็นเศรษฐกิจที่ดีอยู่ แม้จะไม่เติบโตมากกว่าร้อยละ 3-4 ก็ตาม

นอกจากนี้ ยังเป็นห่วงไม่อยากให้การเมืองลากยาวนานไปถึงปลายปี เพราะจะมีปัญหาด้านการจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2558 ซึ่งจะไม่มีงบประมาณมาใช้ดำเนินการในด้านต่างๆ เกิดปัญหา โดยเฉพาะเงินเดือนของข้าราชการประจำ และอื่นๆ ที่อาจจะกระทบต่อข้าราชการทั้งระบบได้ ซึ่งงบประมาณปีนี้คงไม่น่าจะมีปัญหา เพราะได้วางกรอบไว้หมดแล้ว

ส่วนโครงการลงทุน 2 ล้านล้านที่ล่มไปนั้น อาจกระทบต่อแผนการลงทุนบ้าง แต่เชื่อว่าจะกระทบต่อเม็ดเงินลงทุนในปีนี้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากในงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 วงเงิน 2.5 ล้านล้านบาท ร้อยละ 80 เป็นงบรายจ่ายประจำ ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 4.4 แสนล้านบาท เป็นรายจ่ายเพื่อการลงทุน ซึ่งในส่วนนี้เป็นงบจาก พ.ร.บ.เงินกู้เพียง 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็นจำนวนที่น้อยมาก

“หากจะกระทบต่อแผนการลงทุนบ้าง แต่เชื่อว่ารัฐบาลใหม่ที่เข้ามาคงจะต้องศึกษาใหม่ เพื่อให้ประเทศไทยมีระบบขนส่งที่ดี และทันสมัย แข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้”

นายกอบศักดิ์ ยังมองว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น จะฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ปัญหาในประเทศจีนคงต้องจับตาดูอย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อว่ายังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ส่วนปัญหาของยูเครน และรัสเซีย คาดว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดในระยะสั้น

ทั้งนี้ เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวจะส่งผลให้การส่งออกไทยในปีนี้สามารถเติบโตได้ที่ร้อยละ 5-7 และจะช่วยให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยเติบโตที่ร้อยละ 2-3 แต่หากปัญหาทางการเมืองในประเทศที่ยืดเยื้อจนถึงสิ้นปีนี้ และไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำกว่าร้อยละ 2


กำลังโหลดความคิดเห็น