xs
xsm
sm
md
lg

แนะช่วงที่เหลือปี 56 ต้องพยุง ศก. ไม่ให้ทรุดไปกว่านี้ “นายแบงก์” เตือนรับมือพายุการเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สมภพ” ชี้ไทยยังไม่พร้อมตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ เพราะมีทุนสำรองฯ ที่เหลือไว้ดูแล ศก. และเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยนแค่ 3 หมื่นล้านดอลล์ถือว่าน้อยมาก พร้อมคาด ศก.ปี 56 โตไม่เกิน 4% แนะช่วงที่เหลือของปีรัฐต้องพยุง ศก. ไม่ให้ทรุดไปกว่านี้ “กอบศักดิ์” เตือนหากสหรัฐฯ แก้เพดานหนี้เหลวอาจถูกลดอันดับเครดิต ตลาดหุ้นไทยป่วนแน่

นายสมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ กล่าวว่า ประเทศไทยยังไม่อยู่ในฐานะที่เหมาะสมที่จะตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ เพราะหากประเมินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 1.7-1.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ มีเงินทุนสำรองที่เหลือจากการดูแลระบบเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน และเศรษฐกิจเพียง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าน้อยมาก หรือใกล้เคียงกับขนาดกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) และกองทุนประกันสังคม จึงไม่มีผลต่อเศรษฐกิจมาก

นอกจากนี้ ประเทศที่จัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ ควรมีทุนสำรองระหว่างประเทศเหลือเป็นจำนวนมาก และต้องเป็นเงินเย็น ที่ไม่ใช้เพื่อการดูแลตลาดเงิน และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่วนใหญ่ประเทศที่ทรัพยากรจำนวนมาก เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ อย่างประเทศในตะวันออกกลาง และรัสเซีย รวมทั้งประเทศที่รัฐบาลมีอำนาจในการบริหารประเทศสูงสุด อย่างจีน และสิงคโปร์ มีการจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติไปลงทุนในต่างประเทศ

ทั้งนี้ ประเทศไทยยังไม่เหมาะที่จะตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ เพราะปัจจุบัน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็มีการนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศออกไปลงทุนเพื่อหาผลประโยชน์เพิ่มอยู่แล้ว แต่ ธปท.ควรให้นโยบายการลงทุนมีความยืดหยุ่น และกระจายการลงทุนให้เหมาะสม

ส่วนการประชุมขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 17 ตุลาคม 2556 นี้ มองว่าจะสร้างความผันผวนต่อตลาดเงิน และตลาดทุนไทย ดังนั้น ในช่วงที่เหลือของปีรัฐบาลควรพยุงเศรษฐกิจในประเทศไม่ให้ทรุดไปมากกว่านี้ โดยจะต้องมีนโยบายที่ถูกต้อง ทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสูงขึ้น โดยต้องเร่งสร้างเสถียรภาพทางการเมือง และนโยบายเศรษฐกิจทั้งระยะสั้น และระยะยาว

อย่างไรก็ตาม มองว่าโอกาสที่เศรษฐกิจไทยปีนี้จะต่ำกว่าร้อยละ 4 เป็นไปได้มาก เนื่องจาการส่งออกน่าจะขยายตัวไม่เกินร้อยละ 2-3 และการบริโภคในประเทศชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด

หลังจากนี้ รัฐบาลควรใช้นโยบายเศรษฐกิจที่ช่วยเหลือประชาชนระดับรากหญ้าอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพื่อการประชานิยม โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าวที่บิดเบือนกลไกตลาด แนวทางแก้ไข คือ ควรลดราคาลง และปล่อยราคาให้เป็นไปตามกลไกตลาดโลก หรือหาแนวทางอื่นเพื่อดูแลเกษตรกร

ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า หากรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้ได้ จะส่งผลต่อตลาดการเงินอย่างหนัก และอาจถูกหน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถือลดอันดับลง ส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยจะต้องประสบปัญหาในสภาวะความผันผวนเช่นเดียวกับในอดีตที่ผ่านมา เพราะว่าตลาดตราสารหนี้ของไทยเชื่อมโยงกับสหรัฐฯ แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าสหรัฐฯ จะสามารถหาทางออกได้
กำลังโหลดความคิดเห็น