xs
xsm
sm
md
lg

" บิวตี้ คอมมูนิตี้ "ปีนี้ขอลุยนอก หวังโตทะลุ 30%

เผยแพร่:

บิวตี้ คอมมูนิตี้ เผยแผนปี 57 โตต่อเนื่อง ลุยพัฒนาบุคลากรการขาย เน้นลูกค้าสัมพันธ์ ควบคุมต้นทุน เล็งขยายสาขาในประเทศเพิ่ม 65 สาขา และต่างประเทศ 13 สาขา ดันยอดขายโตไม่ต่ำกว่า 30 % พร้อมรักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 20 % ขณะที่ผลประกอบการปี 56 กำไรงาม 211.41 ล้านบาท เติบโตกว่า 22.23% เตรียมจ่ายปันผล 97.09%

นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิว เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2557 ทางบริษัทได้มีนโยบายที่จะเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการภายในองค์กร โดยเน้นไปที่การพัฒนาบุคลากรในด้านการบริการ ณ จุดขาย รวมทั้งปรับปรุงระบบ CRM เพื่อเพิ่มยอดขายของร้าน BEAUTY BUFFET BEAUTY COTTAGE และ BEAUTY MARKET สาขาเดิมให้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น

ซึ่งจากการปรับกลยุทธ์ดังกล่าว เชื่อว่าในปีนี้จะสามารถสร้างการเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 30% และรักษาอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 20 % ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มความสามารถในการขายและการทำกำไรให้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญกับการควบคุมต้นทุนให้อยู่ระดับเหมาะสม เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรสุทธิ ของบริษัทให้อยู่ในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาในประเทศ BEAUTY BUFFET 30 สาขา BEAUTY COTTAGE 20 สาขาและ BEAUTY MARKET 15 สาขา เป็นจำนวนรวม 65 สาขา โดยจะเน้นไปที่หัวเมืองขนาดใหญ่ในต่างจังหวัดมากขึ้นซึ่งมีกำลังซื้อสูงขึ้น และยังมีแผนเปิดสาขา BEAUTY BUFFET และ BEAUTY COTTAGE ในต่างประเทศ (กลุ่มประเทศ CLMV : กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) จำนวน 13 สาขา รวมทั้งจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบรับความต้องการของตลาด และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้น โดยจะเน้นไปที่ช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านทางออนไลน์

สำหรับผลประกอบการปี 2556 ของบริษัท ว่า มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,002.66 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 777.65 ล้านบาท จำนวน 225.01 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 28.93% และมีกำไรสุทธิ 211.41 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ172.96 ล้านบาท จำนวน 38.45 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 22.23 %

ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2556 แม้จะอยู่ท่ามกลางวิกฤตทางการเมืองและเศรฐกิจ บริษัทยังมีการเติบโตที่ดีโดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 274.61ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 219.03ล้านบาท จำนวน55.58 ล้านบาท หรือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 25.37 % และมีกำไรสุทธิ 53.78 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 49.40 ล้านบาท จำนวน 4.38 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.86 % โดยผลประกอบการของ BEAUTY เติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของ แบรนด์ BEAUTY BUFFET และ BEAUTY COTTAGE ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้ามากขึ้น ส่งผลให้ยอดจำหน่ายปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม รวมทั้งมีการขยายสาขาครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ และมีการขยายช่องทางการจำหน่ายผ่าน ช็อปแบรนด์ใหม่ BEAUTY MARKET ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี

นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 97.09% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและสำรองตามกฎหมาย จากนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและสำรองตามกฎหมาย หรือ คิดเป็นเงินปันผลที่จะจ่ายเพิ่มในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 105 ล้าน จากที่ได้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 0.30 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 90 ล้านบาท ทำให้ในปี 2556 บริษัทจ่ายเงินปันผลรวมทั้งสิ้น 0.65 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 195 ล้านบาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 7 พฤษภาคม 2557 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557( เข้าขออนุมัติจากประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 25 เมษายน 2557 )


กำลังโหลดความคิดเห็น