“สหมิตรถังแก๊ส” ยังไปได้สวยหลังออเดอร์พุ่งตั้งแต่ต้นปี 57 มี Backlog ในมือแล้ว 40% ของเป้ารายได้ ปีนี้ “สรุศักดิ์ เอิบสิริสุข” ประเมินปี 57 คาดรายได้โต 15-20% กำไรเติบโตจากปีก่อน สาเหตุจากการขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศ และการขยายกำลังการผลิตถังสามส่วนเพิ่มในโรงงานแห่งที่ 3 แล้วเสร็จ พร้อมลงทุนอีก 50-60 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงเครื่องจักร และเพิ่มอุปกรณ์การผลิตรองรับออเดอร์ใหม่ พร้อมแจ้งผลประกอบการงวดปี 56 รายได้ 2.1 พันล้านบาท กำไร 135 ล้านบาท เตรียมจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2557 ในวันที่ 4 เม.ย. 2557
นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC ผู้ประกอบธุรกิจผลิตถังทนความดันแบบต่างๆ โดยผลิตภัณฑ์หลักเป็นถังสำหรับบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้ม และสำหรับใช้เป็นแหล่งพลังงานรถยนต์ เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจในปี 2557 ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตร้อยละ 15-20 จากงวดปี 2556 ที่มีรายได้ 2,121.14 ล้านบาท โดยการเติบโตของรายได้มาจากธุรกิจหลัก คือ ถังสำหรับบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลว ทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่ยังมีความต้องการเพิ่มมากขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวมในแต่ละประเทศ ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ มีมูลค่างานคงค้างในมืออยู่ที่ประมาณร้อยละ 40 ของรายได้รวมที่มีการประมาณการในปี 2557 แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาจำหน่ายสินค้าเพิ่มเติมทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเติมอีก ซึ่งปัจจุบันกลุ่มลูกค้าหลักบริษัทฯ ในต่างประเทศ ประกอบด้วย ประเทศในทวีปแอฟริกา, เอเชีย, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, อเมริกา และยุโรป โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ แบ่งเป็นในประเทศ 15% ต่างประเทศ 85%
สำหรับแนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมถังทนความดัน และถังบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลวในปี 2557คาดว่าจะกลับมาอีกครั้งตามสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วไปในกลุ่มลูกค้าหลักที่คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 5-10% รวมทั้งสถานการณ์การเมืองของประเทศซึ่งเป็นลูกค้าหลัก มีทิศทางดีขึ้นกว่าปี 2556 ที่ผ่านมา ที่ช่วงต้นปีมีบางประเทศประสบปัญหาการเมืองภายในประเทศ ส่งผลต่อคำสั่งซื้อลดลง ขณะที่ปีนี้ทิศทางคำสั่งซื้อมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีคำสั่งซื้อล่วงหน้าโดยเฉพาะถังสามส่วนประมาณ 2-3 เดือน นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนการลงทุนเพิ่มจำนวน 50-60 ล้านบาท ในการปรับปรุงและพัฒนาเครื่องจักรเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการผลิตเพิ่มขึ้น
“เท่าที่ประเมินสถานการณ์ปี 57 น่าจะเป็นอีกปีที่ดีของบริษัทฯ จากสถานการณ์การเมืองในประเทศหลักในแถบแอฟริกามีความชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 56 ส่งผลให้ภาพรวมของบริษัทฯ ในปี 57 ดูดีมาก มีออเดอร์สั่งซื้อล่วงหน้าเข้ามาจำนวนมาก โดยมีออเดอร์ในมืออยู่ 3 เดือนแล้วจากลูกค้ารายใหม่ในต่างประเทศ และภาพรวมในประเทศ ปัจจุบัน การเมืองในประเทศยังไม่ส่งผลกระทบต่อเราในทางตรง เพราะสินค้าบริษัทฯ เป็นสินค้าจำเป็น คนต้องใช้อยู่แล้ว โดยรวมแล้วแนวโน้มปี 57 เชื่อว่าดีแน่นอน” นายสุรศักดิ์กล่าว
สำหรับผลประกอบการประจำปี 2556 บริษัทฯ มีรายได้จำนวน 2,121.14 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้ 2,319.81ล้านบาท 198.67 ล้านบาท หรือ 8.6% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 135.95 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 175.55 ล้านบาท จำนวน 39.60 ล้านบาท หรือ 22.6% โดยสาเหตุหลักส่วนใหญ่มาจากยอดขายที่ลดลง ทำให้ผลกำไรลดลง และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งเสริมการขายในกลุ่มลูกค้าเดิม และเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2557 ในวันที่ 4 เมษายน 2557 ณ สำนักงานใหญ่ เวลา 14.00 น. ซึ่งบริษัทฯ เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติงบการเงิน ประจำปี 2556 และเสนองดจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงาน ประจำปี 2556 เนื่องจากบริษัทฯ มีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ ได้ขยายกำลังการผลิตโรงงาน 3 เมื่อปลายปี 2556 และบริษัทฯ มีแผนที่จะพัฒนาปรับปรุงเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น