xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์ชาติลุ้น ศก. ครึ่งปีหลังโงหัว ชี้เบิกจ่ายงบฯ อาจเป็นกระสุนนัดสุดท้ายฟื้นความเชื่อมั่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ธปท.ลุ้นปมการเมืองคลาย หนุนเศรษฐกิจครึ่งหลังปี 57 โงหัวขึ้น แต่ห่วงยืดเยื้ออาจฉุดจีดีพีโตได้แค่ 3% แนะจับตาการเบิกจ่ายงบ คาดเป็นกระสุนนัดสุดท้ายฟื้นเชื่อมั่นนักลงทุน ทั้งใน และนอกประเทศ

นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2557 น่าจะฟื้นตัวได้ดี และชัดเจนขึ้นกว่าช่วงต้นปี เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศน่าจะคลี่คลายดีขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยเสริมที่ช่วยสนับสนุนความเชื่อมั่นของภาคเอกชน และกำลังซื้อของประชาชน แต่จะปรับตัวขึ้นได้ดีแค่ไหนต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐว่าจะมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด

ส่วนการที่รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยังไม่เห็นสัญญาณ หรือส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน โดยกิจกรรมในภาคการเงินยังเคลื่อนไหวได้อย่างมีเสถียรภาพ เนื่องจากก่อนหน้านี้ตลาดเงินและตลาดทุนได้มีการตอบรับกับกระแสข่าวดังกล่าวไปแล้ว จึงไม่น่าวิตกกังวลในส่วนนี้แต่อย่างใด

นางรุ่ง กล่าวว่า ธปท.เตรียมจะออกตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจไทยอย่างเป็นทางการในเดือน มี.ค.2557 โดยคงต้องรอดูแนวโน้มตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ปี 2556 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก่อน รวมถึงต้องรวบรวมข้อมูลตัวเลขต่างๆ ปัจจัยที่จะมีผลกระทบ และสนับสนุนเศรษฐกิจให้รอบด้านมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าหากสถานการณ์ทางการเมืองยังคงยืดเยื้อ และไม่สามารถเดินหน้าเลือกตั้งได้ตามเวลาที่กำหนด จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อปัจจัยหนุนเศรษฐกิจ อย่างการเบิกจ่ายภาครัฐให้ล่าช้าลง โดยเฉพาะการเบิกจ่ายนอกงบประมาณ ในส่วนของโครงการลงทุนที่ไม่ต่อเนื่อง รวมถึงต้องจับตาการจัดทำกรอบงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2558 ที่ควรจะเริ่มกระบวนการจัดทำแล้ว ซึ่งในส่วนนี้จะมีผลทั้งทางตรง และทางอ้อมต่อภาคธุรกิจ และถือเป็นอีกปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มเข้ามาในปีนี้ จนอาจทำให้ตัวเลขจีดีพีปี 2557 ขยายตัวได้ใกล้เคียง 3% ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ 4%

นางรุ่ง กล่าวเสริมว่า ในส่วนของสถานการณ์ในตลาดเงิน โดยเฉพาะการไหลเข้า-ออกของเงินลงทุนจากต่างประเทศ ในช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมืองนั้น ยังคงเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพ โดยในระยะยาวมองว่านักลงทุนต่างชาติจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และกลับเข้ามาลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่ยังแข็งแกร่ง ภาคธุรกิจ สถาบันการเงินยังมีสถานะที่มั่นคง รายได้ของประชาชนยังขยายตัวได้เป็นปกติ

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากได้ผ่านช่วงปัจจัยเสี่ยงทั้งค่าเงินบาท และราคาน้ำมันในตลาดโลกผันผวนไปแล้ว ซึ่งปีนี้ ธปท.ยังประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ที่ 1.2% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 2.4% ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังไม่มีความเสี่ยงที่จะทำให้ราคาปรับเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ช่วง 11 เดือนแรกของปี 2556 (ม.ค.-พ.ย.56) พบว่ามีการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยช่วงไตรมาส 1/2556 พบว่ามีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 5.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ ไตรมาส 2 เงินทุนไหลออกสุทธิ 4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ไตรมาส 3 เงินทุนไหลออกสุทธิ 600 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ไตรมาส 4 มีเงินทุนไหลออกสุทธิ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ
กำลังโหลดความคิดเห็น