หุ้นปิดครึ่งวันเช้าบวก 7 จุด เก็งกำไรกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่คึกคัก โบรกฯ คาดยังได้รับผลบวกจาก กนง. คงอัตรา ดบ.นโยบาย และยังมีผลดำเนินงาน Q4/56 เป็นตัวกระตุ้น ขณะที่ต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อย แนะจับตาใกล้วันเลือกตั้งล่วงหน้า 26 ม.ค. สถานการณ์เข้าจุดไคลแมกซ์ ขณะที่ บล.ฟิลลิป คาดเป็นแรงซื้อกลับในช่วงสั้นเท่านั้น
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (23 ม.ค.) ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,297.72 จุด เพิ่มขึ้น 7.23 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.56% มูลค่าการซื้อขาย 13,861.47 ล้านบาท โดยมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่ ขณะที่มีแรงขายในกลุ่มพลังงานเป็นตัวถ่วงดัชนี
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เมยแบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า แรงเก็งกำไรต่อกลุ่มธนาคารยังคงโดดเด่น หลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย บวกกับงบการเงินไตรมาส 4 ปี 2556 ของกลุ่มธนาคารออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ชดเชยกับการชะลอตัวของสินเชื่อ และราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาก่อนหน้านี้ กลายเป็นตัวแปรช่วยจำกัด downside risk ของดัชนีหุ้นไทยช่วงสั้นๆ นี้
อย่างไรก็ตาม การเมืองยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง เพราะยิ่งเข้าใกล้วันเลือกตั้งล่วงหน้า วันที่ 26 ม.ค. ยิ่งมีความเสี่ยงต่อความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ขณะที่ ศรส. เตรียมประกาศรายละเอียด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในวันที่ 27 ม.ค. ทั้งนี้ แม้ว่าภาพการเมือง ความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ การคงอัตราดอกเบี้ยของ กนง. แต่กลับส่งผลให้ต่างชาติขายสุทธิเพียงเล็กน้อย
ด้าน น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองว่า หุ้นภาคเช้าบวกได้ 7 จุด เป็นแค่แรงซื้อกลับในระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากตลาดฯ ยังไม่มีปัจจัยเด่นที่จะทำให้พลิกกลับได้อย่างจริงจัง ประกอบกับปัจจัยการเมืองก็ยังกดดันอยู่
นอกจากนี้ ยังต้องรอดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 214 เกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการเลือกตั้งทั่วไปกรณีการเลื่อนวันเลือกตั้งกระทำได้หรือไม่ และเป็นอำนาจขององค์กรใดหรือไม่
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบเล็กน้อย ภายหลังจากที่ HSBC ได้ประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือน ม.ค.หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ทำให้กดดันตลาดฯ โดยเฉพาะตลาดฮ่องกง เช้านี้ปรับตัวลงไปกว่า 1% แต่ตลาดบ้านเราก็ยังได้รับอานิสงส์บ้างจากที่ตลาดในกลุ่ม TIP ได้ปรับตัวขึ้น
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้คาดว่า ตลาดฯ จะยังคงทรงตัวในลักษณะแกว่งแคบ โดยให้แนวรับ 1,280 จุด แนวต้าน 1,300-1,310 จุด พร้อมแนะนำนักลงทุนที่เล่นเก็งกำไรควรจะต้องเทรดอย่างระมัดระวังในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงกำหนดเลือกตั้ง 2 ก.พ.นี้