หุ้นเปิดลบ 11 จุด จับตา พ.ร.ก.ฉุกเฉินสร้างความตื่นตระหนกให้นักลงทุน เผยสถิติในอดีตรัฐประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินกระทบเงินต่างชาติไหลออกมากสุด ด้านสภาธุรกิจตลาดทุนฯ เตรียมถกผลกระทบการเมือง 23 ม.ค.นี้
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (22 ม.ค.) ดัชนีเปิดในแดนลบ โดยเมื่อเวลา 09.56 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,281.69 จุด ลดลง 11.41 จุด หรือเปลี่ยแปลง -0.88% มูลค่าการซื้อขาย 950.79 ล้านบาท ต่อมา เมื่อเวลา 10.00 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,281.04 จุด ลดลง 12.06 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.93% มูลค่าการซื้อขาย 1,869.35 ล้านบาท
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กล่าวแสดงความกังวลหลังรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการชุมนุม โดยมองว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้น เพราะเป็นเครื่องชี้วัดว่าสถานการณ์การเมืองเข้าสู่ภาวะตึงเครียดมากขึ้น นักลงทุนคงจะชะลอการลงทุน ทั้งนักลงทุนไทย และนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนไทยที่ชะลอการลงทุนมาตั้งแต่ต้นปี ส่งผลให้สัดส่วนการลงทุนของนักลงทุนบุคคลเหลือไม่ถึง 50% กลับเป็นนักลงทุนต่างชาติที่มีการซื้อขายมากขึ้น หลังจากนี้วอลุ่มการซื้อขายจึงน่าจะเบาบางลงจากที่เบาบางอยู่แล้ว
“นักลงทุน รวมถึงผู้ประกอบการก็คงต้องติดตามดูสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และมีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางลบ ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมโบรกเกอร์ รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยในช่วงต้นปีไม่ค่อยดี”
นางภัทธีรา ยังกล่าวเสริมว่าในวันที่ 23 ม.ค.นี้ สภาธุรกิจตลาดทุนไทยจะมีการประชุมประจำเดือน โดยมีวาระที่จะหารือกันถึงผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศต่อธุรกิจ และเศรษฐกิจไทย โดยในส่วนของภาคธุรกิจหลักทรัพย์นั้น นอกจากผลกระทบต่อการเดินทางมาทำงานของพนักงานแล้ว ล่าสุด เห็นได้ว่ามีผลกระทบทำให้ปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ (วอลุ่ม) ปรับลดลง เห็นได้ชัดจากวอลุ่มการซื้อขายเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ปรับลดลงมาอยู่ในระดับไม่ถึง 2 หมื่นล้านบาท
ตอนนี้พบว่ามูลค่าการซื้อขาย (วอลุ่ม) ปรับลดลงมามาก อยู่ในระดับ 2 หมื่นล้านบาท ผลจากความกังวลความรุนแรงของสถานการณ์การชุมนุมที่มีการขว้างระเบิดกัน ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปริมาณวอลุ่มที่ลดลงแรงจะเป็นเพียงสถานการณ์ระยะสั้นเท่านั้น หากสถานการณ์คลี่คลายการลงทุนก็จะกลับมา โดยในวันที่ 23 ม.ค.นี้ จะมีการประชุมประจำเดือนของสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ก็จะมีการพูดคุยกันถึงผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองด้วย
