xs
xsm
sm
md
lg

ชี้56เขตภาคใต้39เขตกทม. ปัญหาอื้อเสี่ยงเลือกตั้งไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ ( 22 ม.ค.) นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ในฐานะประธานกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง จัดประชุมในประเด็นปัญหาและอุปสรรคในกระบวนการจัดการเลือกตั้ง โดยเชิญผู้แทนของตำรวจ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนักวิชาการ เข้าร่วม ทั้งนี้ในส่วนของกกต. มอบหมายให้ นายเมธา ศิลาพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานเลือกตั้ง เป็นตัวแทน
นายเมธา ชี้แจงว่า การเลือกตั้งทั้งแบบบัญชีรายชื่อ และแบ่งเขตเลือกตั้งในภาคเหนือ อีสาน สถานการณ์ปกติ แต่ภาคใต้ กรุงเทพมหานคร มีปัญหา โดยภาคใต้ 56 เขต มีปัญหาครบทุกเรื่อง เช่น บุคลากร คือ คณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัด คณะกรรมการประจำเขต คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ผู้อำนวยการประจำหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งมีการถอนตัว ขณะนี้กำลังพยายามหาบุคคลมาประจำแทน ในส่วนของกทม. 39 เขต ไม่สามารถดำเนินการจัดการอบรมได้แล้วเสร็จ เนื่องจากถูกปิดล้อม และไม่ให้จัดการอบรมต่อ
ในส่วนของบัตรเลือกตั้ง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง การจัดส่งบัตรเลือกตั้งเรียบร้อยดี ได้จัดเก็บรักษาในที่ปลอดภัยแล้ว แต่ที่ภาคใต้ไม่สามารถนำออกมาจากที่จัดเก็บเพื่อประทับตราได้ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญหลักๆ ของการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้
“นโยบายของกกต. คือพยายามจัดให้มีการเลือกตั้งเต็มที่ แต่หากดำเนินการไปแล้วมีความขัดแย้ง กระทบกระทั่งกัน ก็จะไม่ดำเนินการต่อ”นายเมธา กล่าว
เมื่อถามถึงสถานการณ์ที่ไม่สามารถนำไปสู่การลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า หรือการเลือกตั้งทั่วไปได้ จะทำอย่างไรต่อไป หรือถ้ามีการจัดการเลือกตั้งสำเร็จ จะนำไปสู่ปัญหาการจัดตั้งรัฐบาล หรือไม่ นายมธา ชี้แจงว่า ถ้าเกิดปัญหาว่า แต่ละเขตไม่สามารถรวมคะแนนได้ จะเกิดปัญหาว่า ไม่สามารถคำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อจัดสรรจำนวนให้แต่ละพรรคได้ เหมือนกับระบบเขต คือถ้าไม่สามารถรวมคะแนนได้ ก็จะไม่สามารถประกาศชื่อผู้สมัครที่ได้เป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ส่วนที่ดำเนินการไม่ได้ ก็ต้องให้ผ่านวันที่ 2 ก.พ.ไปก่อน แล้วใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ให้มีการจัดเลือกตั้งซ่อม สำหรับการเลื่อนการเลือกตั้ง หรือเปิดรับสมัครใหม่นั้น ขณะนี้ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีช่องทางด้านกฎหมาย ดังนั้นตอนนี้แนวโน้มคือ ต้องใช้วิธีการจัดเลือกตั้งซ่อม
“ถ้าเกิดเลือกตั้งได้ในวันที่ 2 ก.พ. จะได้ส.ส.ประมาณครึ่งๆ ถ้าใช้ช่องทางตาม มาตรา 78 จะสามารถขยายเวลาประกาศออกไปได้อีกเป็นเดือน หรือกว่านั้น โดยอ้างเหตุจลาจล และให้สงบลงก่อน จึงประกาศรับรองส.ส. โดยเฉพาะบัญชีรายชื่อ คาดว่าในวันที่ 2 ก.พ. จะยังไม่สามารถได้ส.ส.ร้อยละ 95 เพื่อเปิดประชุมสภา และจัดตั้งรัฐบาลได้”นายเมธา กล่าว
ส่วนการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของรัฐบาล จำเป็นหรือไม่ ที่จะต้องขอความเห็นชอบของกกต.ก่อน นายเมธา ชี้แจงว่า การที่ต้องขอความเห็นชอบจาก กกต.นั้น จะเกี่ยวข้องกับการใช้งบกลางสำรองจ่ายฉุกเฉิน หรือการแต่งตั้งตำแหน่งที่มีการโปรดเกล้าฯ ระดับสูง ถ้าส่วนล่างก็ไม่เกี่ยว ดังนั้นการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงไม่เกี่ยวข้องกับกกต. ทั้งนี้นัยของมาตรา 181 ของรัฐธรรมนูญไม่ได้ให้อำนาจ กกต.ไปเกี่ยวข้องกับพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
ทั้งนี้ในที่ประชุมได้สอบถาม และตั้งข้อสังเกตกรณีที่ รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งนายเมธาชี้แจงว่า ในเรื่องการออกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่อยู่ในเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 ที่จะต้องขอความเห็นจาก กกต. เพราะในมาตราดังกล่าว เป็นการป้องกันเรื่องการบริหาร ที่จะทำให้ไม่เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้ฝากผู้แทน กกต.ไปพิจารณาว่า หากมีการโยกย้ายข้าราชการ โดยอาศัยอำนาจของพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะต้องหารือกกต. หรือไม่
หลังจากนั้นได้เป็นการสอบถามมาตรการป้องกันความรุนแรง ซึ่ง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. ชี้แจงยืนยัน และยินดีที่จะช่วยป้องกันเหตุ โดยเฉพาะบริเวณสถานที่ชุมนุมทั้ง 7 เวที
“เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความปรารถนาที่จะป้องเหตุไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น หลังจากที่เราได้มีการพูดคุยกันมาแล้วสามครั้ง และได้นำไปปฏิบัตินั้น ได้มีปัจจัยต่างๆ เข้ามากระทบไม่ให้สามารถดำเนินการไปตามแผนได้ ทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ให้ความไว้วางใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ ก็อยากให้ประชาชนรับรู้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการเพื่อประชาชนมาตลอด หากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินการได้เต็มศักยภาพ ตามที่เราชำนาญ จะทำให้สะดวกขึ้น ในการป้องกันเหตุ เช่น การตั้งด่าน ถ้าสามารถทำได้ทุกด่าน จะดีมาก เพราะถ้าทำเป็นบางทีผู้ก่อการร้ายจะรู้และยากที่จะป้องกัน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ อยากให้ผู้ชุมนุมยอมรับ เพราะมันเป็นเรื่องจำเป็น แม้แต่ในการถวายความปลอดภัยก็ต้องทำ”พล.ต.อ.วรพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ในที่ประชุมต่างแสดงความกังวล ว่า เมื่อมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่เกรงว่าจะเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ใช้อ้าง เพื่อจับกุมผู้ชุมนุม พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ที่จะจับกุมผู้รวมตัวกันได้ แต่ขณะนี้ ผอ.ศรส. ยังไม่ได้มีนโยบายให้ใช้ในส่วนนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น