xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ แนะติดตาม ป.ป.ช. พิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาโครงการรับจำนำข้าว ลุ้นบิ๊กการเมืองโดนแจ็กพอต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้นปิดบวกแรง 24 จุด ดัชนีฝ่าแนวสำคัญไปยืนเหนือระดับ 1,300 จุดได้สำเร็จ โดยมีแรงซื้อในหุ้นพื้นฐานขนาดใหญ่ บล.เมย์แบงก์ฯ เผยนักลงทุนเก็งกำไรผลตัดสินคดีรับจำนำข้าว แนะติดตามกรณี ป.ป.ช. จะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อโครงการรับจำนำข้าวต่อใครบ้าง ขณะที่ บล.ฟิลลิป เชื่อเป็นการเก็งกำไรการปรับลดอัตรา ดบ. ในสัปดาห์หน้า จุดพลุหุ้นอสังหาฯ แรลลี่ขึ้น 2-3 วัน รวมถึงหุ้นกลุ่มแบงก์เข้าช่วงฤดูประกาศงบการเงิน ส่วนปัจจัยกดดัน ได้แก่ ปัญหาทางการเมืองที่ยังไม่มีข้อสรุปของทางออก

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (16 ม.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,301.48 จุด เพิ่มขึ้น 24.45 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.91% มูลค่าการซื้อขาย 37,764.50 ล้านบาท ทิศทางเดียวกับต่างประเทศ โดยมีแรงซื้อในหุ้นพื้นฐานขนาดใหญ่ ผลักดันดัชนีฝ่าแนวสำคัญไปยืนเหนือระดับ 1,300 จุดได้สำเร็จ

ด้านสัดส่วนการลงทุน นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 1,029.99 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 345.48 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 1,832.21 ล้านบาท นักลงทุนภายในประเทศ ซื้อสุทธิ 456.74 ล้านบาท

นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นแรง คาดว่าจะเป็นการเข้ามาเก็งเรื่องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตัดสินในกรณีการแจ้งข้อกล่าวหาโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งผลที่ออกมาจะทำให้ปัจจัยการเมืองมีความชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ แรงซื้อที่เข้ามาในตลาดคาดว่าจะมาจากนักลงทุนในประเทศ และเมื่อดัชนีวิ่งเหนือระดับ 1,300 จุด ทำให้ทิศทางตลาดเป็นบวกไปด้วย

อย่างไรก็ดี อัตราการปรับเพิ่มขึ้นยังจำกัดเพราะยังมีปัจจัยกดดันสำคัญ คือ ปัญหาทางการเมืองที่ยังไม่มีข้อสรุปของทางออก สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำเก็งกำไรระยะสั้น โดยซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวที่บริเวณแนวรับ 1,280 จุด และขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้านที่ 1,310 จุด

ด้านนักวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยดีดตัวแรงทะลุแนวต้านสำคัญ 1,300 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันนี้ น่าจะเป็นการเก็งกำไรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า รวมถึงหุ้นกลุ่มธนาคารในช่วงฤดูประกาศงบการเงิน อย่างไรก็ตาม การเมืองภายในยังคงกดดันตลาด รวมทั้งต้องติดตามกรณีที่ ป.ปช.จะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อโครงการรับจำนำข้าวต่อใครบ้าง

ขณะที่นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี ยอมรับว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้แรงกว่าที่ประเมินไว้ และดูดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างอยู่ในแดนบวกเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ดีขึ้น หลักๆ มองว่าหุ้นไทยไม่แพง แต่ก็ยังลังเลเรื่องการเมือง ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่มีความคืบหน้า การชุมนุมก็ยังมีอยู่

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ตลาดยังมีโมเมนตัมที่จะบวกต่อเนื่องได้ แต่หุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงทำให้มีโอกาสที่จะเจอแรงขายทำกำไรด้วยเหมือนกัน ซึ่งตัวแปรหลักของตลาดฯ ยังอยู่ที่การเมือง พร้อมให้แนวรับ 1,280 จุด แนวต้าน 1,320 จุด

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

JAS มูลค่าซื้อขาย 2,707,170 ล้านบาท ปิดที่ 7.40 บาท เพิ่มขึ้น +0.30 บาท (+4.23%)

ADVANC มูลค่าซื้อขาย 2,233,582 ล้านบาท ปิดที่ 215.00 บาท เพิ่มขึ้น +10.00 บาท (+4.88%)

AOT มูลค่าซื้อขาย 2,073,623 ล้านบาท ปิดที่ 166.00 ไม่เปลี่ยนแปลง

TRUE มูลค่าซื้อขาย 2,038,374 ล้านบาท ปิดที่ 8.05 บาท เพิ่มขึ้น +0.40 (+5.23%)

PTTGC มูลค่าซื้อขาย 1,538,517 ล้านบาท ปิดที่ 75.25 บาท เพิ่มขึ้น +0.50 (+0.67%)
กำลังโหลดความคิดเห็น