xs
xsm
sm
md
lg

“จรัมพร” ชี้วอลุ่มแผ่วก่อนสิ้นปีถือเป็นเรื่องปกติ ย้ำตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังเป็นแหล่งที่ระดมทุนที่สำคัญ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการ ตลท. ชี้วอลุ่มก่อนสิ้นปีแผ่วถือเป็นเรื่องปกติ เพราะนักลงทุนชะลอการซื้อขาย และต้องการดูสถานการณ์การเมืองปีหน้าจะมีทางออกอย่างไร ย้ำตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังเป็นแหล่งที่ระดมทุนที่สำคัญ ตั้งเป้า บจ. เข้าใหม่ 2.1 แสนล้าน โดยปี 56 ทำสถิติสูงสุดรอบ 10 ปี ที่ 3.4 แสนล้าน สูงสุดในอาเซียน พร้อมต้อนรับน้องใหม่ “ทรูโกรท” มูลค่า 5.8 หมื่นล้าน สะท้อนศักยภาพการในระดมทุนของตลาดหุ้นไทย

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า การที่มูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยเบาบางในช่วงสิ้นปีถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย ประกอบกับมีปัจจัยการเมืองในประเทศเข้ามากดดัน ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ในปีหน้าว่าจะมีทางออกอย่างไร

แม้ว่าตลาดหุ้นจะปรับตัวลดลงตั้งแต่เดือน พ.ค. ต่อเนื่องมาจนถึงขณะนี้ แต่ ตลท. ยังได้รับความสนใจจากเอกชนว่าเป็นแหล่งระดมทุนที่สำคัญ โดยใน 2 สัปดาห์สุดท้ายมีหุ้นใหม่เข้าจดทะเบียนถึง 5 บริษัท และคาดว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2557 โดยตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์จากบริษัทจดทะเบียนที่เข้าใหม่อีก 210,000 ล้านบาท จากที่ปีนี้ได้ทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี ที่ 346,000 ล้านบาท และเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน

โดยล่าสุดวันนี้ คือ การเข้าจดทะเบียนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทรูโกรท “TRUEIF” ที่มีการระดมทุนถึง 58,080 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการระดมทุนของ ตลท. และคาดว่าในปี 2557 จะมีกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเข้ามาระดมทุนเพิ่มเติมอีก

นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า มั่นใจว่าสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันจะมีผลต่อการลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคมในระยะสั้นเท่านั้น เพราะมองว่าที่ผ่านมา ธุกรกิจโทรคมนาคมสามารถเติบโตได้ภายใต้ปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองมาหลายครั้ง ซึ่งประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะพัฒนาธุรกิจต่างๆ ต่อไปได้อย่างดี

ส่วนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ทรูโกรท เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาระบบโทรคมนาคมของประเทศ ซึ่งถือว่าคุ้มค่า เพราะจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถนำเงินจากการระดมทุนไปขยายกิจการต่อได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถกู้เงินเพื่อการลงทุนเพิ่มในอนาคตได้อีกถึง 3 เท่าของมูลค่ากองทุน ซึ่งทรูมั่นใจกองทุน “TRUEIF” จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี เพราะมีการนำสินทรัพย์จากโทรคมนาคมที่มีมาร่วมลงทุนรวมเสาโทรศัพท์มือถือทั้งหมด 12,000 เสา ครอบคลุมพื้นที่ใช้บริการร้อยละ 97 ทั่วประเทศ และให้ผลตอบแทนคุ้มค่าเฉลี่ยเงินปันผลร้อยละ 8.8 ต่อปี นับเป็นทางเลือกที่ดีของนักลงทุน

นายศุภชัย กล่าวว่า เตรียมที่จะหาพันธมิตรในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในอาเซียน เพื่อขยายธุรกิจรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี โดยจะเปิดให้พันธมิตรเข้าร่วมในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 25 ซึ่งจะเน้นพันธมิตรที่จะสร้างความแข็งแกร่ง และผลักดันให้ทรูเติบโตในอาเซียนได้มากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น