ผู้จัดการ ตลท.เผยนักลงทุนหดจากปัจจัยความกังวลรอบด้านที่เฟดเตรียมชะลอ QE ในเร็วๆ นี้ และปัญหาความขัดแย้งการเมืองภายในประเทศ โดยทั้งปีฝรั่งขายหุ้นไทยไปแล้วกว่า 1.7 แสนล้าน หวั่นการเมืองขัดแย้งต่อเนื่อง ต่างชาติเลี่ยงเสี่ยงย้ายเม็ดเงินหนี ไปลงทุนประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ยังคงไม่มีความเเน่นอน เนื่องจากปัจจัยลบจากต่างประเทศ เช่น ความกังวลในเรื่องที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จะชะลอหรือยกเลิกมาตรการผ่อนคลายทางการเงินในเชิงปริมาณ หรือ QE ลงในเร็วๆ นี้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในระยะเวลาสั้นๆ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ได้รับรู้ข่าว และได้เตรียมที่จะวางแผนการลงทุนไว้บ้างแล้ว จึงได้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ไปก่อน
ทั้งนี้ ในส่วนของปัญหาการเมืองภายในประเทศ ที่คาดว่าจะส่งผลต่อการลงทุนในระยะยาว และทำให้นักลงทุนต่างชาติทยอยเทขายหุ้นออกไปอย่างต่อเนื่องนั้น อันเนื่องมาจากว่าในปีนี้มีนักลงทุนต่างชาติได้ทยอยขายหุ้นใน ตลท.ไปเเล้วประมาณ 1.7 แสนล้านบาท ซึ่งหากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองมีความยืดเยื้อไปถึงปีหน้า อาจทำให้นักลงทุนต่างชาติหันไปลงทุนยังตลาดหุ้นเกิดใหม่ที่มีความน่าสนใจ มีความเสี่ยงน้อย มีอัตราเติบโตทางผลตอบแทนที่สูง และตลาดที่มีศักยภาพการลงทุนที่ดีกว่า เช่น จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม และกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง
ทางด้านการระดมทุนของกองทุนในปีนี้มองว่า สำหรับตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทยปีนี้ถือว่าเป็นปีทอง เนื่องจากมีเงินการระดมทุนเพิ่มขึ้นจากที่ตั้งเป้าว่า 120,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 300,000 ล้านบาท ซึ่งมองว่าหากสถานการณ์ทางการเมืองไม่มีเหตุการณ์รุงเเรงจากวันนี้ไปจนถึงวันที่ 27 ธันวาคม จะมีกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมรายแรกของไทย หรือ TRUEGIF ที่เตรียมจะเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีก 1 กองทุน ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มยอดเงินระดมทุนให้ทะลุเป้า 300,000 ล้านบาท