ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยันการเมืองไม่กระทบหุ้นไทย ชี้ผลกระทบ “คิวอี” ยังมีความเสี่ยงมากกว่า เผยช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ต่างชาติเทขายหุ้นไปแล้ว 1 แสนล้านบาท สูงสุดในภูมิภาค โดยผู้ลงทุนกลุ่มอื่นๆ เป็นผู้ซื้อสุทธิ ขณะที่บริษัทจดทะเบียนหันมาระดมทุนจากตลาดหุ้นถึง 2.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว
นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยผันผวนมาจากปัจจัยต่างประเทศมากกว่าในประเทศ เนื่องจากดัชนีหุ้นไทยตั้งแต่วันที่ 1-12 พ.ย.ที่ผ่านมา ลดลง 2% แต่เมื่อเทียบกับประเทศอินโดนีเซีย อินเดีย และไต้หวัน พบว่า ไทยยังดีกว่า ถึงแม้สถานการณ์ทางการเมืองจะรุนแรงก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อดัชนีหุ้นมากนัก เพราะนักลงทุนยังคงเชื่อมั่นในพื้นฐานที่ค่อนข้างแข็งแกร่งของไทย
นอกจากนี้ การลด หรือยกเลิกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของสหรัฐฯ (คิวอี) ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก เนื่องจากจะกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ช่วงที่เหลือของปีนี้แนะนำให้จับตาปัจจัยเสี่ยงในประเทศ คือ การชุมนุมทางการเมืองที่น่าจะอยู่ในวงจำกัด และคาดว่าจะไม่กระทบดัชนีหุ้นไทยโดยรวม
“ภาวะตลาดหุ้นไทยในปีหน้า ไทยมีปัจจัยพื้นฐานที่ค่อนข้างดีกว่าภูมิภาค และเมื่อเรื่องคิวอีจบ เงินทุนก็น่าจะไหลกลับเข้ามา เพราะคิวอีเป็นปัจจัยที่จะกระทบเศรษฐกิจโลกโดยรวม ซึ่งก็ต้องรอดูอีกครั้ง ส่วนปัญหาทางการเมืองเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ แต่เท่าที่ติดตามสถานการณ์ก็ไม่ได้มีผลต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก มองว่าปัจจัยจากต่างประเทศจะเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักมากกว่า”
ทั้งนี้ ตลท.ได้สรุปภาวะซื้อขาย ณ สิ้นเดือน ต.ค.2556 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปิดที่ 1,442.88 จุด ปรับเพิ่มขึ้นเพียง 4.32% จากเดือนก่อนหน้า สำหรับมูลค่าตลาดรวมของ SET อยู่ที่ 12,594,616 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.26% จากเดือนก่อนหน้า และของ mai อยู่ที่ 189,278 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.42% จากเดือนก่อนหน้า ส่วนมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 39,078 ล้านบาท ลดลง 15.91% จากเดือนก่อนหน้า
ส่วนในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2556 ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 105,338 ล้านบาท โดยผู้ลงทุนกลุ่มอื่นๆ เป็นผู้ซื้อสุทธิ ขณะที่การระดมทุนของบริษัทจดทะเบียนใน SET และ mai มีการระดมทุนรวม 4,417 ล้านบาท แยกเป็นการระดมทุนในตลาดแรก 342 ล้านบาท และระดมทุนตลาดรอง 4,075 ล้านบาท ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2556 มีมูลค่าการระดมทุนสะสมทั้งสิ้น 220,097 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 1 เท่าจากปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ เป็นผลมาจากตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดเปิดทำให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาซื้อขายจำนวนมาก เมื่อเกิดปัจจัยกดดันต่างๆ ทำให้มีการเทขายออกมามากแต่เชื่อว่านักลงทุนยังคงมองเรื่องปัจจัยพื้นฐานของประเทศไทยเป็นหลัก ซึ่งเราถือว่าเป็นประเทศที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีจึงเชื่อว่าจะทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาทำการซื้อขาย