xs
xsm
sm
md
lg

“CGS” ฟันธงปีหน้าหุ้นฟื้น เผยยื่นไฟลิ่ง 4 บจ.เข้าคิวรอเทรด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ บล.คันทรี่ กรุ๊ป หรือ CGS
กุนซือ คันทรี่ กรุ๊ป เผยตลาดหุ้นไทยปีหน้าคาดฟื้นตัว เหตุภาพรวมเศรษฐกิจยุโรปเริ่มส่งสัญญาณบวก บจ.ส่วนใหญ่ตื่น AEC เตรียมแห่เข้าตลาดหุ้นให้ทันแข่งก่อนเปิดเสรีอาเซียน แย้มปีหน้าสหรัฐฯ ไม่หักดิบถอน QE แน่ เพราะกระทบทั้งโลก อาจเริ่มชะลอเม็ดเงินอัดลง แต่หวั่นปัญหาขัดแย้งทางการเมืองในประเทศมากกว่า ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนย้ายฐานเงินไปตลาดอื่น  

นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ บล.คันทรี่ กรุ๊ป หรือ CGS กล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นของไทยในปีหน้าคาดว่าจะเติบโตมากกว่าปีนี้ ซึ่งผลสะท้อนออกมาจากภาพรวมปัจจัยภายนอกประเทศที่เศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว สังเกตได้จากฝั่งยุโรปที่เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ และคาดว่าในปีหน้าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ น่าจะเริ่มเข้าสู่สถานการณ์ปกติ แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าสหรัฐฯ จะไม่เร่งถอนมาตรการ QE ในทันที เพราะจะกระทบต่อตลาดทุนโลก แต่จะค่อยๆ ทยอยปรับลดเม็ดเงินอัดฉีดลง เพื่อที่จะให้ตลาดทุนโลกปรับตัวรับกับสถานการณ์ได้ทัน

“ในขณะที่ปัจจัยภายในประเทศที่อาจสร้างความผันผวน และความกังวลต่อตลาดทุนจะยังคงอยู่ในประเด็นปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง จาก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนที่ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ไม่อยากแบกรับความเสี่ยงที่ไม่แน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าหาก พ.ร.บ.เงินกู้โครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้าน ผ่านมติสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะเป็นผลดีต่อประเทศไทยอย่างมาก เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ ใช้เงินลงทุนสูง และเป็นโครงการระยะยาวที่เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนทั้งใน และต่างประเทศ”

ขณะเดียวกัน ในปีหน้าคาดว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนที่ต้องการเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นเพิ่มมากขึ้น เพื่อระดมทุน และเสริมสร้างศักยภาพของธุรกิจให้เติบโตทันต่อการแข่งขันก่อนเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาซียน หรือ AEC ในปี 2558 โดยบริษัทฯ ได้รับเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้แก่บริษัทจดทะเบียนที่เตรียมจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปีหน้า รวม 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท จี แคปปิตอล หรือ GCAP ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อแก่ลูกค้าที่ต้องการซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร และบริษัท ซีซีเอ็น-เทค หรือ CCN ซึ่งทำธุรกิจด้านซอฟต์แวร์ในการจัดหาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ตลอดถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยทั้ง 2 บริษัทดังกล่าว จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งล่าสุด ทั้ง 2 บริษัทได้มีการยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ไปแล้ว โดยมีมูลค่าในการระดมทุนเฉลี่ยบริษัทละ 100 ล้านบาท  และคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายทันในปีนี้อย่างน้อย 1 บริษัท  

ทั้งนี้ ในไตรมาส 4 นี้ บริษัทฯ เตรียมที่จะยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. เพื่อนำบริษัท ริชี่เพลซ ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มูลค่าการระดมทุนประมาณ 500 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายได้ในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า ขณะที่ไตรมาส 1 ปีหน้า บริษัทฯ เตรียมที่จะยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. ในการนำบริษัท เจเอสพี พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งทำธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีมูลค่าการระดมทุนขั้นต้นประมาณ 3 พันล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น