“วิจิตร เตชะเกษม” ปลื้มเปิดขายไอพีโอ “ฟิลเตอร์ วิชั่น” วันแรกนักลงทุนตอบรับคึกคัก เชื่อเพราะมั่นใจเป็นหุ้นพื้นฐานดี มีกลุ่มลูกค้าหลักในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม แนวโน้มการเติบโตสูง คาดยอดขายทั้งปีโตใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของปีที่ผ่านๆ มาประมาณ 18-20% มั่นใจหุ้นขายหมดแน่หลังปิดจองในวันที่ 21 ต.ค.นี้ ด้านที่ปรึกษาทางการเงินชี้ FVC กำหนดราคา IPO เหมาะสมกับพื้นฐาน มั่นใจสร้างผลตอบแทนที่ดีให้นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ดร.วิจิตร เตชะเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) FVC เปิดเผยว่ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิงที่การเปิดขายหุ้นไอพีโอวันแรก ในวันที่ 17 ตุลาคม 2556 มีนักลงทุนให้ความสนใจหุ้น FVC เป็นอย่างมาก และคาดว่าการเมื่อปิดการจองซื้อหุ้น IPO ในวันที่ 21 ตุลาคมนี้ น่าจะสามารถขายหุ้นได้หมดทั้งจำนวน
“การตอบรับดังกล่าวคาดว่ามาจากนักลงทุนมีความมั่นใจในพื้นฐานของ FVC ว่าน่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนที่จองซื้อหุ้นได้ โดยทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับระบบบำบัดน้ำให้บริสุทธิ์ โดยกลุ่มลูกค้าของบริษัทคือ กลุ่มธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟ และแฟรนไชส์ กลุ่มธุรกิจด้านการแพทย์ และกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม ซึ่งธุรกิจเหล่านี้มีการเติบโตตามการขยายตัวของผู้บริโภค มีการขยายสาขา และเพิ่มปริมาณสินค้าต่อเนื่อง ทำให้ FVC เติบโตควบคู่ไปกับธุรกิจของลูกค้า”
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต ทั้งการลงทุนในการพัฒนาสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่องกับการบำบัดน้ำให้บริสุทธิ์ให้มีความพร้อมเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งการที่มีความพร้อมทางด้านเงินทุน และบุคลากรจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับความแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เป็นมา และเมื่อผนวกเข้ากับผลประกอบการที่ขยายตัวต่อเนื่องทุกปี อีกทั้งลูกค้ายังคงขยายธุรกิจต่อเนื่องทำให้มีงานใหม่เพิ่มเติมตลอดเวลา ทำให้มั่นใจว่าผลประกอบการในปี 2556 รายได้จะเติบโตต่อเนื่อง โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 18-20%
นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กกรรมการผู้จัดการสายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน FVC กล่าวว่า หุ้นดังกล่าวจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 29 ต.ค. นี้ และจากการที่นักลงทุนสนใจติดต่อเข้ามาค่อนข้างมากในการเปิดขายไอพีโอวันแรก (17 ต.ค.) นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการกำหนดราคาไอพีโอที่มีความเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐาน โดยกำหนดราคาไอพีโอที่ 1.20 บาท มี P/E อยู่ที่ 11 เท่า ประกอบกับ FVC เป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และในอนาคตธุรกิจยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง มีลูกค้าหลักอยู่ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งมีทิศทางการเติบโตที่ดี ดังนั้น จึงเชื่อมั่นว่าหุ้น FVC จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน และน่าจะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ลงทุนได้เพราะมีปัจจัยบวกที่สนับสนุนจำนวนมาก